พรรคไทยรักราษฎร์ จัดประชุมใหญ่สามัญพร้อมปรับยุทธศาสตร์และขับเคลื่อนพรรคสู่สถาบันการเมืองหลักของประเทศ
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2563 ที่ โรงแรมวรบุรี อยุธยา รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พรรคไทยรักราษฎร์ ตัดประชุมใหญ่สามัญขึ้นโดยมี นายนพดล อมรเวช ทำหน้าที่ประธานในการประชุม และวาระสำคัญในการจัดการประชุมครั้งนี้ คือ การเห็นชอบอละอนุมัติข้อบังคับพรรคฉบับบใหม่ และการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยมีสมาชิกพรรคจากทั่วประเทศเดินทางมาร่วมประชุมมากกว่า 300 คน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบ กฏหมาย โดยมีผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมสังเกตุการณ์ ให้คำเสนอแนะและให้คำปรึกษา โดยผลการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่ประชุมมีมติเลือกกรรมการบริหารพรรคจำนวน 10 คน ประกอบไปด้วย
1.นายสุพจน์ พลบุตร หัวหน้าพรรค
2.น.ส.ศิริณี กันทา เลขาธิการพรรค
3.น.ส.สิริรัตน์ ราวินิจ เหรัญญิกพรรค
4.นายอดุลย์ ชูสุวรรณ นายทะเบียนพรรค
5.นายสุทิน ดรุณโยธิน รองหัวหน้าพรรค
6.นายนพดล อมรเวช ผู้อำนวยการพรรค
7.นายปรีชาชัย พิพรรธน์ธนาดุล รองเลขาธิการพรรค
8.นายสุนัย พลายงาม โฆษกพรรค
9.นายบุญชิต ทองหัตยา กรรมการบริหารพรรค
10.นายจตุพล สิงห์มรกต กรรมการบริหารพรรค
ซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างพรรคไทยรักราษฎร์ เพื่อเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งและปรับยุทธศาสตร์พรรคในสร้างและการขับเคลื่อนพรรคสู่สถาบันการเมืองหลักของประเทศ ซึ่งจากนี้ไปจะเร่งรัดในการดำเนินการกำหนดและสร้างยุทธศาสตร์เชิงนโยบายที่สามารถปฏิบัติได้จริงและตอบโจทย์สำคัญต่อความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตของประชาชน เน้นการแก้ไขและพัฒนาเชิงระบบ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้านซึ่งเป็นคำตอบและรากฐานของการพัฒนา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปกป้องและดำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นอกจากนี้ภารกิจสำคัญของพรรคคือการขับเคลื่อนการปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง รวมถึงการปฏิรูประบบราชการให้เป็นที่พึ่งของประชาชน และการพัฒนาประเทศในทุกมิติ
นอกจากนี้ ในที่ประชุมใหญ่สามัญพรรค ยังจัดให้มีปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “บทบาทของพรรคการเมืองใหม่กับการพัฒนาประเทศไทย” โดย พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย อดีตสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งพรรคได้เชิญมาเป็นองค์ปาฐกถาพิเศษ เพื่อให้ความรู้ความคิด และมุมมองในการมีส่วนร่วมทางการเมืองและการกำหนดทิศทางพัฒนาพรรคการเมืองในบริบทใหม่ของพรรคการเมืองให้กับสมาชิกพรรคที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย