ทส. ดึงพลัง ทสม.ลุ่มน้ำภาคกลาง ร่วมแก้ปัญหาขยะพลาสติก เพิ่มพื้นที่สีเขียว
วันนี้ (8 ส.ค. 2563) ที่ อาคารปฐมสัมมาคาร อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา อ. เมือง จ. นครปฐม
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานเปิดงานและ
มอบนโยบายโครงการสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เครือข่าย ทสม. กับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลาง ร่วมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ประชาชน และ ทสม. กว่า 200 คน เข้าร่วมงาน ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมศักยภาพ ทสม. สู่การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชนท้องถิ่นสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เน้นแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกและเพิ่มพื้นที่สีเขียว ย้ำ “จิตอาสา” หัวใจสำคัญ ขับเคลื่อนการดำเนินงาน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า รัฐบาล
ให้ความสำคัญกับการดึงพลังภาคส่วนต่างๆ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจนเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการจัดการตนเองและ
เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ภายใต้การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ซึ่งเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ เครือข่าย ทสม. ซึ่งมีสมาชิกครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัดและกรุงเทพมหานครมากกว่า 2 แสนคน ถือเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระดับท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน ตลอดจน
ช่วยรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้กับเยาวชน ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เนื่องจาก หัวใจสำคัญ
ของการทำงานเครือข่าย ทสม. คือ ความเป็น “จิตอาสา” ที่เกิดจากใจที่อยากจะทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคม และให้ความสำคัญ
กับกระบวนการมีส่วนร่วม ดังพระบรมราโชบายการเป็นจิตอาสาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ว่า “ทำเป็นตัวอย่าง
ทำจากเล็กไปใหญ่ ดูแลบ้านตนเองก่อน แล้วพัฒนาไปสู่ส่วนรวม” การดำเนินงานของเครือข่าย ทสม. จึงสามารถดำเนินงานควบคู่ไปกับงานจิตอาสาพระราชทานด้านต่างๆ ได้ ซึ่งปัจจุบันมี ทสม. กว่าแสนคน ร่วมเป็น “จิตอาสาพระราชทาน”
การดำเนินงานเครือข่าย ทสม. ในฐานะเครือข่ายภาคประชาชน จึงเป็นกำลังหลักสำคัญของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะช่วยส่งเสริมนโยบายต่างๆ ไปสู่การปฏิบัติในระดับชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้เกิด
การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับพื้นที่ได้อย่างยั่งยืนและเห็นผลเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ การขับเคลื่อนนโยบายการจัดการขยะพลาสติก ตาม ROADMAP ที่มุ่งสู่เป้าหมายการลดและเลิกใช้พลาสติกด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ให้ได้ 100% ภายในปี 2570 รวมทั้งนโยบาย
การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ร้อยละ 55 ของพื้นที่ประเทศ ดังพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลปัจจุบัน ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด ดำเนินรอยตามแนวพระราชดำริ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติ สังคม และเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนที่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าและพื้นที่
รอบเขตป่าให้สามารถอยู่กับป่าได้อย่างยั่งยืน
/ด้าน นายรัชฎา…
ด้าน นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัจจุบัน เครือข่าย ทสม. มีสมาชิก จำนวน 239,221 คน ครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร โดย 3 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ ในวันนี้ ได้แก่ จังหวัดนครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี มีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 7,189 คน แบ่งเป็น จังหวัดนครปฐม 1,838 คน จังหวัดราชบุรี 1,146 คน และจังหวัดกาญจนบุรี 4,205 คน ซึ่งขับเคลื่อนการดำเนินงานด้วย 4 บทบาทหลัก ได้แก่ 1.การเป็นผู้ปฎิบัติ
เป็นผู้นำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนภารกิจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ชุมชนท้องถิ่นของตนเอง 2. การเป็นผู้ประสาน ในฐานะ “โซ่ข้อกลาง” ทั้งระหว่างสมาชิก เครือข่าย ทสม. และภาคีเครือข่ายอื่นๆ ให้เกิดความร่วมมือในระดับพื้นที่ 3.การเป็นผู้ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่การดำเนินงานของเครือข่าย ให้เป็นที่ประจักษ์
ต่อสาธารณะ และ 4. การเป็นผู้ประเมินผล เพื่อตรวจสอบและปรับปรุงการทำงานของเครือข่าย รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานเข้าสู่ระบบของเครือข่าย ทสม.
ผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เครือข่าย ทสม. กับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลาง ประกอบด้วย เครือข่าย ทสม. ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ประสานความร่วมมือและพัฒนาเครือข่าย ชมรมเรารักแม่น้ำท่าจีน จ. นครปฐม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 200 คน ซึ่งจะมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ตลอดจนแนวทางการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรมจากเครือข่าย ทสม. ดีเด่น ด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรน้ำ ด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ ด้านการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน และด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง
การจัดแสดงนิทรรศการผลการดำเนินงานของเครือข่าย ทสม. ในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลาง