อินเดียปฏิบัติการ ‘โค่น’ ศูนย์ดะวะห์ใหญ่ ‘จับผู้นำ-ปิด’ยึด’สเปนโมเดล’สลายมุสลิม
12 เมษายน 2020
รัฐบาล นเรนทรา โมดี จากพรรคBharatiya Janata Party ได้โอกาสวิกฤติโควิด-19 สลาย’ศูนย์ดะวะห์ใหญ่’ ในอินเดีย โดยการติดตามจับกุมแกนนำ อาจถึงขั้นรื้อมัสยิด ออกกฎห้ามออกดะวะห์ และตัดแขนขา ตัดขาดการเชื่อมโยงกับกลุ่มดะวะห์ทั่วโลก
ตำรวจอินเดีย โดยบัญชาการของนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี จากพรรคBharatiya Janata Party (BJP) ของกลุ่มฮินดูหัวรุนแรง ได้ออกมายจับเมาลานา มูฮัมหมัด ซาอัด กันด์ลาวี (Maulana Muhammad Saad Kandhlawi)ผู้นำดะวะห์ตับลีกในอินเดีย ในข้อหาละเมิดคำสั่งของทางราชการ ในการจัดกิจกรรมโยรที่นิซัมมุดดีน และสอนบรรดาลูกศิษย์ให้ละเมิดคำสั่งของทางราชการ ในการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เขาได้หลบหนีการจับกุม
ตำรวจอินเดีย ได้กูไฟล์ ของเมาลานาซาอัด ที่บรรยายให้ลูกศิษย์ต่อต้านนโยบายการปิดมัสยิดของรัฐบาลอินเดียว ด้วยคำพูดที่ระบุว่า
‘ไม่มีสถานที่ใดจะดีไปกว่าการตายในมัสยิด อัลเลาะฮ์จะลงโทษเราเพราะเราไม่ละหมาดในมัสยิด แต่เขา(รัฐบาลอินเดีย)ไม่ให้เราละหมาดในมัสยิด ซึ่งอัลเลาะฮ์จะลงโทษเราเพราะเราทิ้งมัสยิด ไม่ต้องไปสนใจ แม้ว่าหมอจะแนะนำไม่ให้ละหมาดในมัสยิด ไม่ต้องสนใจหากพวกเขา(รัฐบาลอินเดีย) บอกให้ปิดมัสยิด เพราะเป็นทฤษฎีสมคบคิด เพื่อไม่ให้พวกเรา(มุสลิม)รวมตัวกัน’
คลิปคำบรรยายของเมาลานามูฮัมหมัด ซาอัด มีการดาวน์โหลดลงยูทูบ ต่อมามีการลบ แต่ตำรวจอินเดีย ได้กู้คืนกลับมาได้ เป็นหลักฐานมัดตัวเขา
ไม่เพียง มูฮัมหมัด ซาอัด ตำรวจอินเดีย ยังติดตามไล่จับกุมแกนนำระดับรองๆ ลงมาอีกหลายคน ขณะเดียวกัน ได้มีคำสั่งปิดศูนย์บัญชาการใหญ่ที่นิซัมมุดดีน หลังการจัดกิจกรรมโยรครั้งสุดท้าย ระหว่าง 17-19 มีนาคม ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรง มีนักดะวะห์ตับลีฆ จากหลายประเทศ รวมทั้งไทย เดินทางไปร่วมกิจกรรมโยรในครั้งด้วย ซึ่งต่อมาจากกิจกรรมที่นิซัมมุดดีน ได้ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรมและผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดมากกว่า 400 คน
มีการจับกุมนักดะวะห์จากไทย และอีกหลายประเทศมากกว่า 60 คน ในข้อหาเข้าเมืองเกินกว่ากฎหมายกำหนด และเข้าเมืองผิดวัตถุประสงค์ โดยทั้งหมดขอวีซ่าท่องเที่ยวไปอินเดีย แต่เขาร่วมกิจกรรมดะวะห์ที่ถือเป็นกิจกรรมเผยแพร่ศาสนา ที่จะต้องขอวีซ่าต่างหาก
การจับกุมดะวะห์ต่างชาติ เป็นการตัดสายสัมพันธ์ระหว่างดะวะห์อินเดียกับดะวะห์ในต่างประเทศ
ตำรวจอินเดีย เข้าปิดศูนย์บัญชาการใหญ่ของดะวะห์ตับลีฆที่นิซัมมุดดีน และอาจจะรื้อมัสยิดขนาดใหญ่ที่ก่อสร้างเมื่อ 1992 โดยมีการระบุว่า มีการก่อสร้างโดยผิดกฎหมาย และมีการตรวจสอบบัญชีรายรับย้อนหลังเพื่อดูการเข้าออกของเงินด้วย
ขณะเดียว ฝ่ายความมั่นคง จะเฝ้าจับตา การตระเวณออกดะวะห์ 3 วัน และ 40 วัน อย่างใกล้ชิด ในทุกตำบล อำเภอ และจังหวัด ซึ่งจะทำให้การดะวะห์ไม่เสรีเหมือนเดิมอีกต่อไป และคาดว่า จะมีการควบคุมการขับเคลื่อน หลังวิกฤตนี้ อย่างแน่นอน
มัรกัสนิซัมมุดดีน ก่อตั้งโดยเมาลานาอินยาซ ซึ่งมีต้นตระกูลจากอบูบัก(รด.) คอลีฟะห์คนแรก ปู่ของเมาลานาซาอัด ผู้นำคนปัจจุบัน เป้าหมายเพื่อรวมคนมุสลิมเข้าสู่อิบาดะห์ ขณะเดียวกัน มีแผนในระดับเบื้องบนที่จะรื้อฟื้นระบบคอลีฟะห์ขึ้นมาก นับเป็นขุมกำลังที่ใหญ่มากในอินเดีย จากพลเมืองมุสลิมในอินเดีย 201 ล้านคน คาดว่า มีสายดะวะห์ ประมาณ 20-30% แต่หลังจากเมาลานาฮาซัน ผู้นำคนที่ 2 ลูกของผู้ก่อตั้งเสียชีวิต ได้มีการตั้งสภาซูรอ 6 คน มาสืบสานการทำงาน จนต่อมา 5 คนเสียชีวิต เหลือเมาลานาซาอัด เพียงคนเดียว จึงขึ้นครองความเป็นผู้นำเพียงเดียว ทำให้กลุ่มที่ไม่พอใจออกไปก่อตั้ง กลุ่มใหม่ ชื่อว่าอลามี่ ทำให้กลุ่มดะวะห์แตกออกเป็น 2 สาย ซึ่งทั้ง 2 สายเข้ามาประเทศไทย ในนามมัรกัสมีนบุรี (สายอลามี) และมัรกัสยะลา (สายนิซัมมุดดีน)
นักวิเคราะห์การเมือง ให้ข้อมูลว่า CIAของอเมริกา และมอสสาด หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล ได้เข้ามาจับตาและเก็บข้อมูลกลุ่มดะวะห์อินเดีย ตั้งแต่กว่า 20 ปีที่แล้ว แต่ไม่มีโอกาสดำเนินการอะไร จนมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจากพรรคคองเกรส เป็นBJP และสอดรับกับสถานการณ์โควิด-19 จึงมีปฏิบัติการสลายกลุ่มดะวะห์อินเดีย
ทั้งนี้ ยังมีข้อมูลว่า การย่อยสลายมุสลิมในอินเดีย นเรนทรโมดี ยึดโมเดลสเปน ที่ขับไล่มุสลิมออกจากยุโรป หลังจากครองอำนาจอยู่นาน 800 ปีได้สำเร็จ เมื่อประมาณ 500 ปีก่อย เนื่องจากในอินเดีย ในสภาพใกล้เคียงกับสเปน ที่มุสลิมเข้าไปใหม่ เข้าปกครองอินเดีย 800 ปี โดยฐานเดิมเป็นฮินดู(pointing up)(pointing up)(pointing up)