“คารม” มาแล้ว! ไม่ย้ายพรรค สมัครสมาชิกก้าวไกล เผย ‘คนสำคัญ’ ทำตัดสินใจกลับมา

 

พรรคก้าวไกล คึกคัก เปิดรับสมัครสมาชิกวันแรก ‘คารม’ เปลี่ยนใจไม่ย้ายไปไหน หลังคุยเข้าใจ“ลั่น”ไม่ใช่งูเห่าฝากเลี้ยง ด้าน “พิธา” บอกเป็นนักการเมืองใจเบาไม่ได้
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 มีนาคม ที่พรรคก้าวไกล ฝั่งธนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งเป็นช่วงที่เปิดโอกาสให้ ส.ส. อดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ได้มาลงทะเบียนเพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล เป็นไปอย่างคึกคัก

โดยอดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นำทีมมาลงสมัครอย่างเป็นทางการ และมีการประชุมสามัญพรรคเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตามปรากฏว่า นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งช่วงแรกได้ออกจากลุ่มไลน์ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ โดยมีข่าวว่าจะย้ายอยู่ไปพรรคอื่น ก็ได้เดินทางมาสมัครด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยนายพิธา ได้เข้าไปโอบไหล่พร้อมพูดคุยโดยนายพิธา กล่าวว่า “การเมืองก็เป็นแบบนี้ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เป็นนักการเมืองใจเบาไม่ได้”
ด้านนายคารม กล่าวว่า ได้คุยกับแกนนำและนายพิธามาโดยตลอด วันนี้ได้ตัดสินใจแล้ว เมื่อถึงวันที่ต้องตัดสินใจก็ต้องตัดสินใจ อย่างไรก็ตามการสะท้อนปัญหาถือเป็นเรื่องธรรมดา ยอมรับไม่ค่อยได้นอน เพราะนอนไม่หลับ

เมื่อถามว่า การมาสมัครวันนี้เป็นเรื่องของงูเห่าฝากเลี้ยงหรือไม่ นายคารมตอบปฏิเสธทันทีว่า “ไม่ใช่ คนอย่างผมใครฝากเลี้ยงไม่ได้ ถ้าจะอยู่ก็คืออยู่ ถ้าจะไปก็คือไป ไม่มีฝากเลี้ยง และในข้อเท็จจริง ก็ไม่เคยให้ใครฝากเลี้ยง การเป็นนักการเมือง ก็ย่อมแสดงความคิดเห็น และวิพากษ์วิจารณ์ได้ เราไม่ใช่ค่ายทหาร ต้องพูดได้

ยืนยันว่าตัวเองมีเจตนาดี สิ่งที่พูดออกไปผู้ใหญ่ก็รับฟัง วานนี้ผู้ใหญ่หลายคนในพรรคได้ประสานงานกัน มีการพูดคุยกันก็เกิดความเข้าใจ แต่การตัดสินใจในทางการเมืองครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญ ผมอยากเห็นการทำงานในพรรคนี้เดินไปข้างหน้า เพื่อตอบโจทย์ประชาชน การพูดของผมไม่ใช่เพื่อการต่อรอง เรื่องตำแน่ง แต่เป็นเรื่องของการทำงาน

สิ่งสำคัญเมื่อพรรคเห็นว่าการปรับโครงสร้างสามารถตอบโจทย์การเดินไปข้างหน้า เรื่องการชั่งใจก่อนจะตัดสินใจทางการเมือง ถือเป็นเรื่องธรรมดา ความรู้สึกที่ดีมีมาก เราต้องยึดหลักความเหมาะสม ความเป็นพี่น้องกัน วันนี้น้องๆ ในพรรคก็เข้าใจ

แต่อยากฝากว่า พรรคเราไม่มีเงิน การทำงานต้องอยู่ด้วยจิตใจที่ผูกพันธ์กัน ผมทำการเมืองมา 23 ปี จึงจำเป็นต้องตัดสินใจโดยคำนึงอย่างรอบคอบ วันนี้ถ้าผมรู้จักบุญคุณคน ไม่เดินกลับมาแน่นอน การอยู่ด้วยกัน ไม่ได้ผูกรัดด้วยเงิน แต่อยู่ด้วยความมั่นใจ”

เมื่อถามว่า บุญคุณคนที่ระบุ หมายถึงใคร นายคารม กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าที่มาอยู่กับพรรคอนาคตใหม่เดิม เพราะการชักชวนของนายปิยบุตร แสงกนกกุล และนายธานาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายคารม กล่าวอีกว่า ขอบคุณหลายคนที่พยายามชักชวนให้กลับมาอยู่ด้วยกัน ยืนยันไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง

ถ้าเป็นเรื่อเงินคงไปนานแล้ว เพราะมีหลายพรรคการเมืองได้ติดต่อมา และขอปฏิเสธว่าตนไม่ใช่งูเห่า ทั้งนี้ตนเสียใจนิดหนึ่ง เพราะไม่ได้เป็นคนให้ข่าว กรณีที่ออกจากกลุ่มไลน์ของ ส.ส. นั้นเพราะไม่สบายใจ แต่ไม่รู้ว่าใครออกไปให้ข่าวกับสื่อมวลชน แต่เหตุการณ์ผ่านไปแล้วก็ไม่ว่ากัน และแม้จะมีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ก็ไม่เคยตำหนิใคร อีกทั้งวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเข้ากลุ่มไลน์อย่างไร ต้องรอคนดึงกลับมา

จึงต้องยอมรับว่า เป็น ส.ส. เพราะพรรคอนาคตใหม่ เมื่อถูกยุบพรรคไปแล้ว ก็หวังว่าอุดมกาณณ์จะถ่ายทอดมายังพรรคก้าวไกล เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เพียง 2 วัน นายคารมเคยระบุว่า พรรคก้าวไกลอาจละเลยโนบายสำหรับคนภาคอีสาน วันนี้นโยบายเพิ่มกลับเข้ามาแล้วหรือ

นายคารม กล่าวว่า ได้พูดคุยกับแกนนำกันแล้วว่าต้องปรับ และเพิ่มเข้ามาซึ่งทุกคนยืนยันว่าจะปรับ ซึ่งการมองนโยบายภาคอีสาน เราต้องมองจากโครงสร้างบุคคลเป็นหลัก รวมทั้งเนื้อหา ซึ่งจากการพูดคุยทุกฝ่ายก็เข้าใจ และเนื่องจากเรายังไม่ได้เป็นรัฐบาลจึงไม่ได้เห็นเป็นรูปธรรมแต่วันนี้ทุกคนยืนยันว่า พื้นที่ภาคอีสานมีความสำคัญ เมื่อคืนนี้ ถ้าไม่ได้คุยกันก็อาจจะไม่ได้กลับมา

“คุณพิธาเป็นคนที่ทำให้ผมกลับมาอีกคนหนึ่ง และที่ผมพูดก่อนหน้านี้ในเรื่องของหน้าตานั้นเป็นการพูดเปรียบเทียบถึงโครงสร้าง ไม่ได้หมายถึงตัวคุณพิธา ซึ่งเรื่องเหล่านี้เข้าใจกันหมดแล้ว และอยากให้ผมมาร่วมทำงานด้วย ไม่มีการตำหนิกัน ยืนยันว่า คุณพิธาเป็นคนน่ารักและมีความสามารถ อนาคตวัดกันไม่ได้ จากการกล่าวหา

ส่วนการกลับมาไม่เกี่ยวว่าจะได้เป็น กก.บห. พรรค จะอยู่ตำแหน่งใดก็ได้ ถ้าเป็นค่ายทหาร ใครจะทำหน้าที่อะไรก็ต้องบอกกัน ส่วนในพรรคการเมืองใครมีหน้าที่อะไรก็ต้องทำตามบทบาท สำหรับผมยอมรับว่าเกือบจะเปลี่ยนจุดยืนไปเหมือนกัน เพราะมีเหตุผลอย่างที่กล่าวมา”

นายคารม กล่าวว่า วันนี้คงมากันไม่ครบ เพราะมี 2 คนคือ นายจุลพันธ์ โนนศรีชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ย้ายสังกัดไปไปอยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนา และนายสมัคร ป้องวงศ์ ส.ส.สมุทรสาคร ที่ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. กทม. ซึ่งเป็นเจ้าของศูนย์ประสานงานแห่งนี้ ไม่ได้เดินทางมาสมัครสมาชิก เพราะต้องกักตัวเองหลังกลับจากการเดินทางจากประเทศฟิลลิปินส์ ส่วนนายสมัคร นั้น รายงานข่าวแจ้งว่าย้ายไปพรรคชาติพัฒนา

ภายหลัง ส.ส.สมัครสมาชิกพรรคก้าวไกลเรียบร้อยแล้ว ก็จะประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ (กก.บห.) โดยมีวาระเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ขณะเดียวกันก็มีกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลชุดปัจจุบัน อาทิ นางปีใหม่ รัฐวงษา เลขาธิการพรรครักษาการหัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าร่วมประชุมด้วย

https://www.khaosod.co.th/politics/news_3750197

You may have missed