เสรี โพสต์ สว.โหวดเลือกนายกแก้ปัญหา ตั้ง รบ.

29 พ.ค.62 นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความแสดงความเห็นกรณีปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่า

“รัฐธรรมนูญ กำหนดให้ ส.ว.ร่วมลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย”

“การจัดตั้งรัฐบาลบนฐานของผลประโยชน์และความต้องการของพรรคการเมืองที่ต่อรองกันยังไม่ลงตัว ไม่ใช่เรื่องที่จะจัดตั้งได้ง่ายๆ เพราะแต่ละพรรคการเมืองล้วนมีจุดหมายของการได้ผลประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะต่อรองได้ มิใช่ประโยชน์สูงสุดของประชาชนอย่างที่พูดกัน”

“ทั้งๆที่พรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลควรจะต้องมีอำนาจการต่อรองมากกว่าพรรคอื่นๆ ที่จะต้องอยู่บนฐานของความเข้มแข็ง ความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นของตัวเอง ที่จะต้องให้พรรคการเมืองอื่นๆเข้ามาขอร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล”

“แต่ปรากฏว่า สถานการณ์กลับกัน พรรคแกนนำไม่สามารถนำเอาจุดแข็งของตัวเองมาใช้เป็นเครื่องต่อรองกับพรรคการเมืองอื่นๆได้ แต่กลับจัดตั้งรัฐบาลอยู่บนพื้นฐานของความหวาดกลัวว่า จะได้เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลรวมแล้วไม่เกินกึ่งหนึ่งของเสียงในสภาผู้แทนราษฎร จนกลายเป็นพรรคการเมืองอื่นควบคุมสถานการณ์หรือควบคุมเกมส์ เล่นตัวได้ตามที่ตนเองต้องการ และในที่สุดก็จะถูกเรียกร้องจนหมดตัว”

“ซึ่งพรรคที่เป็นแกนนำจะต้องมีความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และเด็ดขาดมากกว่านี้ และใช้จุดแข็งของตัวเองให้เป็นประโยชน์ในการต่อรอง และต้องทราบว่าจุดแข็งของตัวเองอยู่ที่ไหน หากยังไม่พบหรือยังไม่ทราบว่าจุดแข็งของพรรคตัวเองอยู่ที่ไหน ก็ยากที่จะต่อรองให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการได้”

“โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลบนเสียงปริ่มน้ำหรือจมน้ำเหล่านี้ อยู่ที่เสียงสนับสนุนของสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 250 คนเป็นตัวกำหนด ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่สมาชิกวุฒิสภาจะต้องมาร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่ง สว.มีอิสระในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี บนพื้นฐานของประโยชน์สูงสุดของชาติและประชาชน รวมทั้งให้ได้คนที่มีความสามารถและมีความเหมาะสมที่สุดต่อการบริหารประเทศมาเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงสถานการณ์หรือช่วงเวลาขณะนี้ ซึ่งในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนี้ สว.ก็ต้องตัดสินใจคิดกันเองให้ดีเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดของชาติบ้านเมืองดังกล่าว”

“ช่วงนี้ก็คงมีเวลาในการเจรจาต่อรอง ไปจนกว่าจะได้ประธานรัฐสภามาปฏิบัติหน้าที่ แต่เมื่อถึงเวลาแล้วดูทีหากพรรคการเมืองยังไม่สามารถหรือยังไม่ยุติที่จะรวมตัวกันในการสนับสนุนนายกรัฐมนตรีให้สำเร็จได้ คะแนนเสียงและความรับผิดชอบก็คงไปตกอยู่กับสมาชิกวุฒิสภา ในการโหวตเลือกบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งเป็นเอกสิทธิและเป็นหน้าที่ของ สว. ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ส่วนผลคะแนนในส่วน ส.ส.จะมีจำนวนเป็นอย่างไร ก็ต้องรับสภาพ”

You may have missed