ภาคียาสูบประสานเสียงชาวไร่ยาเส้น จี้รัฐบาลใหม่ไม่ขึ้นภาษีสุดโต่ง ชี้ชาวไร่ต้องการเวลาปรับตัว

นายสุธีร์ ชวชาติ นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบ จ. ลำปาง และตัวแทนภาคียาสูบแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นกรณีคณะรัฐมนตรีและกระทรวงการคลังประกาศเก็บภาษียาเส้นเพิ่มขึ้นจาก 0.005 บาทต่อกรัม เป็น 0.1 บาทต่อกรัม ว่าในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา ภาษีบุหรี่ก็เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด จากราคาต่ำสุดซองหนึ่งไม่ถึง 40 บาท ขยับก้าวกระโดดเป็น 60 บาท ชาวไร่ยาสูบเองก็ต้องเดือดร้อนเพราะโควตารับซื้อใบยาลดลง 50% แต่การขึ้นภาษียาเส้นครั้งนี้เป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการยาเส้นเลยปรับตัวไม่ทัน ทำให้ไม่ยอมรับซื้อใบยาจากชาวไร่ยาเส้น
“เป็นเรื่องน่าเห็นใจสำหรับชาวไร่ยาเส้น แต่การขึ้นภาษียาเส้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อปี 2560 รัฐบาลขึ้นภาษีบุหรี่มวน แต่กลับลดภาษียาเส้นลงครึ่งหนึ่ง จนกระทบยอดขายบุหรี่อย่างหนัก เพราะทำให้ผู้สูบบุหรี่หันไปสูบยาเส้นที่มีราคาถูกกว่า 4-5 เท่าแทน ทำให้ยอดขายยาเส้นเพิ่มขึ้นมาก แต่ถึงแม้จะมีนักสูบยาเส้นกว่า 5 ล้านคนทั่วประเทศ แต่เก็บภาษีได้น้อยมาก แทบไม่คุ้มค่าพิมพ์แสตมป์ยาสูบ เพราะอัตราภาษียาเส้นต่ำมาก รัฐบาลจึงจำเป็นต้องไปขึ้นภาษียาเส้น เพื่อให้ความเป็นธรรมระหว่างชาวไร่ทั้งสองกลุ่ม ไม่ให้ราคาบุหรี่กับยาเส้นแตกต่างกันเกินไป พวกเราก็เคยเดือดร้อนกับการขึ้นภาษีบุหรี่อย่างสุดโต่งแบบไม่ทันได้ตั้งตัวมาตลอดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจนเคยออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเหมือนกัน จึงเข้าใจความรู้สึกของชาวไร่ยาเส้นดี อยากฝากไปถึงรัฐบาลและ รมต. คลังคนใหม่ว่าทั้งชาวไร่ยาสูบและชาวไร่ยาเส้นอยากเห็นการขึ้นภาษียาเส้นและยาสูบแบบค่อยเป็นค่อยไป มีแผนการขึ้นภาษีแบบเป็นรูปธรรม ไม่ขึ้นทีละเยอะ ๆ เหมือนที่ผ่านมาจนพวกชาวไร่ปรับตัวไม่ทัน”

You may have missed