‘หม่อมเต่า’ให้กำลังใจ อสร.บัณฑิตแรงงาน จ.นราธิวาส ผู้ขับเคลื่อนภารกิจแรงงานในพื้นที่ชายแดนใต้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พบปะให้กำลังใจอาสาสมัครแรงงาน บัณฑิตแรงงานผู้เสียสละเวลาส่วนตัวและครอบครัว นำบริการด้านแรงงานช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้าถึงบริการของรัฐอย่างทั่วถึงและครอบคลุม พร้อมมอบนโยบายหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน จ.นราธิวาส

 

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2563 หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ บัณฑิตแรงงาน รวมถึงแกนนำอาสาสมัครแรงงานจังหวัดนราธิวาส ณ ห้องประชุมสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 25 นราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 231 หมู่ที่ 8 ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส โดยมี ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน

นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน นายบุญลอย เขียดนิล แรงงานจังหวัดนราธิวาส พร้อมหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนราธิวาส อาสาสมัครแรงงาน และบัณฑิตแรงงานให้การต้อนรับ โดย รมว.แรงงาน กล่าวว่า


หัวหน้าส่วนราชการทุกท่าน อาสาสมัครแรงงาน บัณฑิตแรงงาน และเจ้าหน้าที่ทุกท่านล้วนมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ในระดับพื้นที่และระดับประเทศ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศท่ามกลางสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งด้านเทคโนโลยี และโครงสร้างประชากรรวมถึงปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่ล้วนส่งผลกระทบต่อแรงงานและโลกของการทำงานทั้งสิ้น เพื่อให้การขับเคลื่อนด้านแรงงานสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและการเปลี่ยนแปลงของสังคม จึงขอให้หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนราธิวาส บูรณาการ่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่ายด้านแรงงาน


ให้ความสำคัญกับการยกระดับและเพิ่มทักษะฝีมือแรงงานเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการลงทุนในพื้นที่ และสอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบกิจการ รวมทั้งเป็นการสนับสนุนโครงการสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตลอดจนการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้มีลักษณะ Multi skills ให้หัวหน้าส่วนราชการทุกท่านร่วมกันขับเคลื่อนให้มีการส่งเสริมการมีงานทำที่เหมาะสมกับศักยภาพของแรงงานดังกล่าวให้สามารถดำรงชีพได้อย่างพอเพียง ตลอดจนการสร้างสภาพแวดล้อม


ในการทำงานที่ส่งเสริมให้แรงงานมีพลังและเกิดความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตที่เรียกว่า Work Life Integration รวมทั้งสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการทำงานโดยเฉพาะในที่เป็นพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องเน้นย้ำในด้านความปลอดภัยเป็นพิเศษ และขอให้ลงพื้นที่เพื่อพบปะและบูรณาการเพื่อพัฒนาและยกระดับทักษะฝีมือแรงงานในภาคการผลิตในสถานประกอบกิจการ ให้สามารถต่อยอดนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลผลิตในสถานประกอบกิจการได้

ม.ร.ว.จัตุมงคลฯ กล่าวต่อว่า ขอให้หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมบูรณาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ในการให้ความคุ้มครองและพัฒนาแรงงานสูงอายุ ส่งเสริมการจ้างงานและการมีรายได้ให้กับแรงงานสูงอายุทั้งแรงงานในระบบและแรงงานนอกระบบ และสร้างความตระหนักรู้ในช่องทางการหางาน ผ่านศูนย์บริการจัดหางานของกระทรวงแรงงาน รวมถึงการฝึกทักษะอาชีพต่าง ๆ ให้กับแรงงานสูงอายุในรูปแบบที่เหมาะสม เพื่อให้แรงงานสูงอายุได้ทำงานตามศักยภาพและสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างเต็มภาคภูมิ

“ขอเป็นกำลังใจในการทำงานและเชื่อมั่นว่าทุกคนจะผนึกกำลังร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จในการวางรากฐานที่มั่นคงด้านแรงงานอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ จึงขอให้หัวหน้าส่วนราชการทุกท่าน อาสาสมัครแรงงาน บัณฑิตแรงงาน และเจ้าหน้าที่ทุกคน ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาและยกระดับฝีมือแรงงาน คุ้มครองแรงงาน สร้างหลักประกันทางสังคมให้แก่ผู้ใช้แรงงาน ตลอดจนสร้างจิตสำนึกและตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำงาน ให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติและบรรลุวิสัยทัศน์ของรัฐบาล คือ “มุ่งมั่นให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในศตวรรษที่ 21” และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางการปฏิบัติราชการต่อไป” ม.ร.ว.จัตุมงคลฯ กล่าวในท้ายสุด

สำหรับสถานการณ์ด้านแรงงานของจังหวัดนราธิวาส ปัจจุบันมีประชากร 806,716 คน มีผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 515,822 คน เป็นผู้มีงานทำ 31,8025 คน ผู้ว่างงาน 13,677 คน อัตราการว่างงานร้อยละ 2.65 ผู้รอฤดูกาล 681 คน มีแรงงานนอกระบบ 132,415 คน ผู้สูงอายุ 154,033 คน มีแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ 2,316 คน นายจ้าง 609 ราย มีสถานประกอบการ 1,616 แห่ง ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมรวมทั้งสิ้น 52,417 คน มีอาสาสมัครแรงงานจำนวน 75 คน

You may have missed