“หมอเอก” เปิดผลวิจัยล่าสุดบุหรี่ไฟฟ้าอาจมี อันตรายน้อยกว่าบุหรี่
“หมอเอก” เปิดผลวิจัยล่าสุดบุหรี่ไฟฟ้าอาจมี
อันตรายน้อยกว่าบุหรี่
หมอเอกเปิดหลักฐานบุหรี่ไฟฟ้าล่าสุด ชี้บุหรี่ไฟฟ้าอาจช่วยลดการสูบบุหรี่ได้และอาจจะมีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ ชี้ข้อมูล “ด้านเดียว” ที่เผยแพร่โดยหน่วยงานไทยทำสังคมสับสน-ลดประสิทธิผลการรณรงค์เลิกบุหรี่
อดีต ส.ส. จังหวัดเชียงราย นายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ หรือ “หมอเอก” โพสต์ข้อมูลบุหรี่ไฟฟ้าล่าสุดที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสารทางการแพทย์ JAMA ระบุว่า “มีหลักฐานว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้ผู้ใหญ่เลิกบุหรี่ได้ และอาจจะมีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่แบบเผาไหม้” ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่มีการนำเสนอข่าวในช่วงที่ผ่านมาของกลุ่มเอ็นจีโอสุขภาพไทย
รายงานวิจัยดังกล่าวยังเผยด้วยว่า แม้วิธีบำบัดการติดบุหรี่อันดับแรกสำหรับผู้สูบบุหรี่ที่ไม่ได้ตั้งครรภ์คือการรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและได้รับยาเลิกบุหรี่ที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา สหรัฐฯ (เอฟดีเอ) แต่บุหรี่ไฟฟ้าอาจเป็นตัวช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า 10 แบรนด์ 13 รสชาติ ได้รับอนุญาตจากเอฟดีเอให้จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาได้ แม้จะไม่ได้รับอนุมัติให้เป็นเครื่องมือช่วยเลิกบุหรี่
“ในเล่มวารสารของ JAMA ที่เผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยนี้ ยังมีประเด็นน่าสนใจตรงที่มีการแยกเขียนระหว่าง บุหรี่ไฟฟ้ากับวัยรุ่น และ บุหรี่ไฟฟ้ากับผู้ใหญ่ เนื่องจากมีวิธีคิดในการจัดการและใช้ข้อมูลวิชาการที่แตกต่างกัน…. และเมื่อนำมาทำเป็นนโยบายด้านสาธารณสุข ก็จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องการใช้บุหรี่ไฟฟ้าช่วยในการเลิกบุหรี่สำหรับผู้ใหญ่ การคำนึงถึงความเสี่ยงของโรคที่แตกต่างกันระหว่างบุหรี่กับบุหรี่ไฟฟ้า มาประเมินร่วมกับความเสี่ยงในการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชน”
โพสต์ดังกล่าวที่เผยแพร่ในบัญชีเฟสบุ๊คส่วนตัว “หมอเอก Ekkapob Pianpises” ยังตั้งคำถามถึงการรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าที่ให้ข้อมูลแต่เรื่องพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าว่า “ในฐานะประชาชนที่พอจะมีความรู้ทางการแพทย์อยู่บ้าง ติดตามอ่านข้อมูลทางวิชาการทางการแพทย์อยู่เรื่อยๆ และในฐานะของประชาชนที่มีส่วนในการติดตามนโยบายด้านสาธารณสุขของประเทศ จะทำยังไงกับข้อมูลที่แตกต่างกันแบบนี้ดี ???” พร้อมทิ้งท้ายว่าหากประเทศไทยยังไม่ยอมรับความจริงที่ว่าแม้บุหรี่ไฟฟ้าจะถูกแบน แต่ก็ยังมีคนใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก เราจะไม่เห็นปัญหาอย่างชัดเจนว่ามีผู้สูบบุหรี่หรือใช้บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนเท่าไรบ้างในประเทศ ซึ่งจะทำให้การรณรงค์เรื่องการควบคุมยาสูบไม่มีทางสัมฤทธิ์ผล
ทั้งนี้ หมอเอก เคยเป็นรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการสาธารณสุขเรื่องปัญหาการควบคุมยาสูบและบุหรี่ไฟฟ้า และปัจจุบันยังเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย สภาผู้แทนราษฎร จึงยังคงสนใจและติดตามประเด็นของบุหรี่ไฟฟ้าอย่างใกล้ชิด