“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 13 มกราคม

“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 13 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 107,771,259 โดส และทั่วโลกแล้ว 9,572 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 831.2 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (120.7%)
➡️(13 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,572 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 40 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 521 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 208 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 831.2 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 291.7 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 13 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 107,771,259 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.63%

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9,572 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 13 มกราคม 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 107,771,259 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 51,642,575 โดส (78% ของประชากร)
-เข็มสอง 47,172,252 โดส (71.3% ของประชากร)
-เข็มสาม 8,956,432 โดส (13.5% ของประชากร)

2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-13 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 107,771,259 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 499,355 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 460,915 โดส/วัน

3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,835,368 โดส
– เข็มที่ 2 3,577,254 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 13,526,886โดส
– เข็มที่ 2 27,996,408 โดส
– เข็มที่ 3 3,164,663 โดส

วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,471,862 โดส
– เข็มที่ 2 7,143,881 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 7,189,000 โดส
– เข็มที่ 2 7,846,826 โดส
– เข็มที่ 3 4,381,088โดส

วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 619,459 โดส
– เข็มที่ 2 607,883 โดส
– เข็มที่ 3 1,410,681 โดส

4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.7% เข็มที่2 119.1% เข็มที่3 100.7%
– อสม เข็มที่1 78.9% เข็มที่2 76.4% เข็มที่3 27.6%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 78.1% เข็มที่2 73.1% เข็มที่3 13.8%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 68.7% เข็มที่3 62% เข็มที่3 12.2%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 75.9% เข็มที่2 69.2% เข็มที่3 10.6%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 75% เข็มที่2 71.9% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 71.7% เข็มที่2 65.5% เข็มที่3 12.4%

5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 120.7% เข็มที่2 111.7%
2. ชลบุรี เข็มที่1 93.9% เข็มที่2 88.9%
3. สมุทรสาคร เข็มที่1 95.1% เข็มที่2 86.1%
4. เชียงใหม่ เข็มที่1 90.2% เข็มที่2 85.8%
5. ภูเก็ต เข็มที่1 87.8% เข็มที่2 85.4%
6. ปทุมธานี เข็มที่1 84.3% เข็มที่2 79.3%
7. ระนอง เข็มที่1 83.1% เข็มที่2 77.5%
8. ระยอง เข็มที่1 78.4% เข็มที่2 74.7%
9. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 87.8% เข็มที่2 74.5%
10. พังงา เข็มที่1 74.8% เข็มที่2 73.1%

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. หนองบัวลำภู เข็มที่1 51.9% เข็มที่2 42.5%
2. ปัตตานี เข็มที่1 53.7% เข็มที่2 43%
3. นราธิวาส เข็มที่1 53.5% เข็มที่2 43.1%
4. บึงกาฬ เข็มที่1 54.4% เข็มที่2 44%
5. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 65% เข็มที่2 45.9%
6. สกลนคร เข็มที่1 55.4% เข็มที่2 45.9%
7. สุรินทร์ เข็มที่1 52.2% เข็มที่2 47.1%
8. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 54.6% เข็มที่2 47.8%
9. ศรีสะเกษ เข็มที่1 54.6% เข็มที่2 47.8%
10. นครพนม เข็มที่1 55.7% เข็มที่2 47.9%

6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 831,222,637 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 291,737,185 โดส (62.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 163,533,682 โดส (80.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ 116,284,392 โดส (52.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 107,771,259 โดส (78%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 60,035,273 โดส (79.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 38,156,041 โดส (38.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 32,271,995 โดส (84.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 12,132,375 โดส (89%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 8,402,034 โดส (63%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 898,401 โดส (94.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม

7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.74%
2. ยุโรป 10.37%
3. อเมริกาเหนือ 8.84%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.00%
5. แอฟริกา 3.47%
6. โอเชียเนีย 0.58%

8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,912.18ล้านโดส (208% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,566.8 ล้านโดส (114.6%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 521.16 ล้านโดส (157%)
4. บราซิล จำนวน 337.66 ล้านโดส (160.7%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 291.74ล้านโดส (105.7%)

9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (279.6%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (237.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
3. เดนมาร์ก (225.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
4. บาห์เรน (221.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (213.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
6. มัลดีฟส์ (213.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
7. เกาหลีใต้ (211.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
8. จีน (208%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
9. สิงคโปร (206.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
10. บรูไน (203.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

You may have missed