จังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 92.2%”

“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 4 กันยายน ฉีดวัคซีนแล้ว 35,218,164 โดส และทั่วโลกแล้ว 5,439 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 271.25 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 92.2%”
➡️(4 กันยายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 5,438 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 41 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 374 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 176 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 271.25 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (76.8% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 104.38 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 4 กันยายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 35,218,164 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 56.92%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 5,438 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 4 กันยายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 35,218,164 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 24,918,054 โดส (37.6% ของประชากร)
-เข็มสอง 9,698,842 โดส (14.7% ของประชากร)
-เข็มสาม 601,268 โดส (0.9% ของประชากร)

2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 4 ก.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 35,218,164 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 925,627 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 685,380 โดส/วัน

3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 11,660,740 โดส
– เข็มที่ 2 3,475,959 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 9,939,261 โดส
– เข็มที่ 2 4,938,983 โดส
– เข็มที่ 3 212,066 โดส

วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 2,948,688 โดส
– เข็มที่ 2 1,200,022 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 369,365 โดส
– เข็มที่ 2 83,874 โดส
– เข็มที่ 3 389,202 โดส

4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.7% เข็มที่2 111.5% เข็มที่3 84.4%
– เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 56.7% เข็มที่2 39.2% เข็มที่3 0%
– อสม เข็มที่1 66.5% เข็มที่2 39.1% เข็มที่3 0%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 45.4% เข็มที่1 14.1% เข็มที่3 0%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 49.5% เข็มที่2 18.7% เข็มที่3 0%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 47.5% เข็มที่2 13.9% เข็มที่3 0%
– หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 9.4% เข็มที่2 1.2% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 49.8% เข็มที่2 19.4% เข็มที่3 1.2%

5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 70.2% เข็มที่2 20.7% เข็มที่3 1.2% ประกอบด้วย
– กรุงเทพฯ เข็มที่1 92.2% เข็มที่2 26.3% เข็มที่3 1.8%
– สมุทรปราการ เข็มที่1 52.3% เข็มที่2 13.6% เข็มที่3 0.6%
– ปทุมธานี เข็มที่1 52.2% เข็มที่2 13.9% เข็มที่3 0.5%
– สมุทรสาคร เข็มที่1 45.9% เข็มที่2 20.5% เข็มที่3 0.6%
– นนทบุรี เข็มที่1 44.4% เข็มที่2 17.6% เข็มที่3 0.7%
– นครปฐม เข็มที่1 32.1% เข็มที่2 9% เข็มที่3 0.7%

จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 24.7% เข็มที่2 10.6% เข็มที่3 0.7%
– ภูเก็ต เข็มที่1 77% เข็มที่2 68.2% เข็มที่3 1.2%
– ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 55.1% เข็มที่2 14.4% เข็มที่3 0.6%
– พังงา เข็มที่1 48.4% เข็มที่2 27.8% เข็มที่3 0.8%
– ระนอง เข็มที่1 46% เข็มที่2 27.5% เข็มที่3 0.7%
– ชลบุรี เข็มที่1 44.1% เข็มที่2 16.9% เข็มที่3 1.0%
– เพชรบุรี เข็มที่1 37.5% เข็มที่2 14.3% เข็มที่3 0.8%

6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 271,254,495 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 104,384,321 โดส (24.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 35,841,103 โดส (61.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ไทย จำนวน 35,218,164 โดส (37.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 34,112,320 โดส (18.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. เวียดนาม จำนวน 20,831,478 โดส (18.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
6. กัมพูชา จำนวน 20,420,125 โดส (65.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,867,340 โดส (76.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า 6,872,232 โดส (8.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 4,369,013 โดส (34.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 338,399 โดส (52.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ

7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 67.91%
2. ยุโรป 12.44%
3. อเมริกาเหนือ 10.39%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.84%
5. แอฟริกา 1.96%
6. โอเชียเนีย 0.46%

8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,084.65 ล้านโดส (74.4% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 677.02 ล้านโดส (24.8%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 373.52 ล้านโดส (58.4%)
4. บราซิล จำนวน 197,29 ล้านโดส (48%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 133.06 ล้านโดส (52.7%)
6. อินโดนิเซีย จำนวน 104.38 ล้านโดส (24.1%)
6. เยอรมนี จำนวน 102.44 ล้านโดส (61.6%)

9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (92.3% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (85.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (84.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. อุรุกวัย (81.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. กาตาร์ (80.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. สิงคโปร์ (76.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
7. อิสราเอล (77.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. ชิลี (76.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
9. เดนมาร์ก (74.5%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
10. จีน (74.4%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

You may have missed