วัชระยื่นมือช่วยกลุ่มผู้ค้าหาบเร่หน้าวัดหัวลำโพงหลังถูกเรียกเก็บค่าแผงจากแก๊งมาเฟีย


(28 เม.ย.64)นายวัชระ  เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องขอให้ไปเป็นเพื่อนและช่วยประสานงานกับศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ศาลอาญาคดีทุจริตประประพฤติมิชอบกลาง ช่วยเหลือนางสาวสุพรรณ ปริญ และนางสาวสง่า  เงินยอง ซึ่งเป็น 2 คนในจำนวนทั้งหมด 31 คนของกลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอยหน้าวัดหัวลำโพง ตรงข้ามจามจุรีสแควร์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม. ได้รับความเสียหายจากการถูกเรียกเก็บค่าแผงเป็นจำนวนมากถึง 9,252,700 บาท และมีการฟ้องร้องในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 128/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อท 148/2563 ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด โจทก์ นายประเสริฐหรืออธิปัญญา  พรมมี จำเลย ที่ศาลอาญาคดีทุจริตประประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งศาลมีคำสั่งแจ้งออกคำบังคับให้ผู้เสียหาย 31 รายทราบว่าจะได้เงินคืนจากจำเลยคนละเท่าใด ซึ่งนโยบายของศาลนี้ถือเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับผู้เสียหายมากที่ทำให้ผู้เสียหายได้รู้สิทธิ์ที่จะได้รับคืนค่าเสียหาย นายวัชระ จึงช่วยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ศาลทุจริตฯขอคัดคำฟ้อง คำพิพากษา คำบังคับและอื่นๆในสำนวนเพื่อดำเนินการให้ความยุติธรรมกลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอยหน้าวัดหัวลำโพงต่อไป

สำหรับคดีนี้มีพ.ต.ต.พรรษวุฒ  สุวานิช อัยการปราบปรามการทุจริต 1 เป็นผู้ฟ้องคดีนายประเสริฐหรืออธิปัญญา พรมมี หรือยิ้ม หัวลำโพง ผู้เดินเรียกเก็บเงินค่าแผงผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่หน้าวัดหัวลำโพง ถูกศาลทุจริตฯพิพากษาจำคุก 186 เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับโทษ นายวัชระ กล่าวว่า คดีนี้ตามข้อเท็จจริงจากชาวบ้านเชื่อว่ามีข้าราชการร่วมกระทำความผิดด้วยและบรรดาผู้เสียหาย 31 คนยังไม่ได้ถูกเรียกเข้าเป็นพยานในศาลแม้แต่รายเดียว

You may have missed