ชุมชนร้องสื่อ ! รัฐตั้งผู้ปกครองศาลเจ้าไม่สนชุมชน สั่งคนเรียกเก็บค่าจอดรถไม่ออกใบเสร็จนานกว่า 4 ปี เงินไปไหนขอความกระจ่าง

 

จากกรณีข้อพิพาทของชาวชุมศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง เกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ปกครองศาลเจ้า โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากคนในชุมชน รวมถึงการเรียกเก็บเงินค่าจอดรถโดยไม่ออกใบเสร็จ เก็บมานานกว่า 4 ปี ชาวบ้านอยากรู้เงินไปไหน ? ไม่มีการพัฒนาศาลเจ้าและชุมชน ปล่อยให้ศาลเจ้าเสื่อมโศรมจนชาวบ้านต้องรวมเงินกันบูรณะกันเอง ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริงจากการบอกเล่าของคนในชุมชนแห่งนี้ได้รับการบอกเล่าว่า ปัจจุบันได้มีคณะผู้ดูแลศาลเจ้าชุดใหม่ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงมหาดไทย โดยที่ชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้ไม่ได้รับรู้หรือมีการเรียกประชุมชาวบ้านแต่อย่างใด
.
เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ ตั้งแต่มารับต่ำแหน่งผู้ปกครองศาลเจ้า กิจกรรมประเพณีต่างๆที่เคยจัดสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่สมัยราชกาลที่ 3 นับเวลาได้ 163 ปีไม่ได้รับการเหลียวแล อีกทั้งศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากงที่คนในชุมชนนับถือก็เสื่อมโศรมไร้การบูรณะซ่อมแซม ชาวบ้านเล่าต่ออีกว่า ผู้ปกครองศาลเจ้านั้นไม่ใช่คนในชุมชนเขาจะไม่รู้จักและไม่เข้าใจประเพณีที่สืบทอดกันมา จึงไม่เข้าใจชุมชนอย่างท่องแท้ อีกทั้งตอนนี้ชาวบ้านก็สุดทนกับพฤติกรรมเรียกเก็บเงินค่าที่จอดรถไม่ไหว เคยร้องเรียนไปยังสำนักงานเขตธนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เงียบกริบ ชาวบ้านจึงร้องสื่อให้ช่วยหาความจริง
.
อยากรู้ว่าเงินของอากงไปไหน เก็บเงินค่าที่จอดมาหลายปีแล้วไม่เคยเห็นเอามาช่วยเหลือคนในชุมชนและศาลเจ้า ถ้าไม่ให้จอดเอาไว้ออกมาอีกทีรถก็มีรอยรอบคัน คนในชุมชนเคยอยู่กันมาอย่าสงบสุขสามัคคี ตอนนี้มีแต่ความขัดแย้ง สำนักงานเขตธนบุรีก็ไม่รับฟังชาวบ้านในชุมชน มองแต่ว่าชาวบ้านขัดแย้งกับสำนักงานเขต ฝากถามหน่อยว่ามันมีผลประโยชน์ซับซ้อนหรือเปล่าถึงไม่รับฟังชาวบ้านที่เขาเกิดและอยู่ในชุมชนแห่งนี้ ตอนแต่งตั้งกันทำไมไม่เรียกชาวบ้านมาประชุมเลือกกันเอง
.
สำหรับ ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง หรือ ศาลเจ้ากลางสวน ตั้งอยู่ในซอยตากสิน 4 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพ เป็นศาลเจ้าโบราณเก่าอายุกว่า 163 ปี สร้างขึ้นในสมัยราชกาลที่ ๓ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชุมชน มีคณะกรรมการปกครองดูแล จากรุ่นสู่รุ่นผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเป็นประธานคณะกรรมการ มีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ถือปฏิบัติกันมา.
ภายใน 1 ปี ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง จะมีการจัดงานทั้งหมด ๔ งาน ซึ่งจะต้องดูปฏิทินจีนอีกครั้งในแต่ล่ะปี ที่คณะกรรมการดำเนินงานสืบต่อกันมาดังนี้
๑.งานต้นปี เพื่อให้ลูกศิษย์มาร่วมงานสังสรรค์ ร่วมความรักความสามัคคีในหมู่ลูกศิษย์
๒.งานทำบุญกลางปี(ทิ้งกระจาด)เพื่อทำบุญแจกทานข้าวสารให้แก่ผู้ยากไร้่
๓.งานทำบุญวันเกิดเล่าปุนเถ้ากง เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ร่วมกัน ทำความเคารพ เล่าปุนเถ้ากง
๔.งานส่งท้ายปี
.
และประเพณีได้จางหายไปตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๐ หลังจากที่ได้ขึ้นทะเบียนศาลเจ้ากับกรมการปกครอง ผู้ปกครองศาลเจ้าที่ได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงมหาดไทย ที่ไม่เข้าใจในประเพณีของชุมชนและไม่ใช่คนในชุมชนโดยกำเหนิด ขาดความเชื่อมโยงกับชุมชน รวมถึงวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น จึงทำให้ประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันนั้นมาจางหายไป ซึ่งถือเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า จึงเป็นที่มาของข้อพิพาทระหว่างชุมชนแห่งนี้กับผู้ปกครองศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากงที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาใหม่โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากคนในชุมชน รวมถึงการเรียกเก็บเงินค่าที่จอดรถ ชาวบ้านสงสัยเงินไปไหน ?

You may have missed