“ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล นั่งประธานหอการค้าชลบุรีคนใหม่ ตั้งเป้าพลิกโฉมสู่ยุคดิจิทัล เสริมเเกร่งSMEs พัฒนานวัตกรรม

เอ็มดีข้าวสารตราไก่แจ้ นั่งประธานหอการค้าชลบุรีคนใหม่ ตั้งเป้าพลิกโฉมสู่ยุคดิจิทัล เปิดนโยบาย 9 ฝ่าย กระจายรายได้สู่ชุมชน เสริมเเกร่ง SMEs ใช้นวัตกรรมเพิ่มมูลค่า หนุนสร้างบุคลากรก้าวทันธุรกิจใหม่

หลังการทำงานร่วมกับหอการค้าจังหวัดชลบุรีมายาวนานกว่า 15 ปี นักธุรกิจหนุ่มไฟเเรงวัย 40 ปี ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงตราไก่แจ้ และบริษัท ทีอาร์ ไทยฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าขนมไทยตราแม่นภา จากหนทางผู้สร้างปรากฎการณ์นำพาธุรกิจก้าวกระโดดจาก 10 ล้านไประดับ 2,500 ล้านบาทสู่บทบาทใหม่การนำทัพภาคเอกชนพัฒนาชุมชนบ้านเกิด

วันนี้เขาได้รับความไว้วางใจคัดเลือกจากคณะกรรมการสมาชิกหอการค้า และกลุ่ม YEC (Young Enterpreneurchamber of commerce) จังหวัดชลบุรี ให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานหอการค้าจังหวัดชลบุรีคนใหม่ในวาระปี 2562 – 2563

ธีรินทร์ กล่าวถึงนโยบายเเละวิสัยทัศน์การพลิกโฉมหอการค้าจังหวัดชลบุรีสู่ยุคดิจิทัลว่า มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะก้าวไปเป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม นวัตกรรมเเละดิจิทัลภายในจังหวัด ซึ่งจะมีการประสานงานกันทั้ง 9 ฝ่าย โดยมีรองประธาน ทีมงานที่เชี่ยวชาญเเละมีประสบการณ์ด้านธุรกิจดูเเลอย่างใกล้ชิด“ปีนี้เราจะต้องส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัลให้เข้าถึงชุมชนมากขึ้นทั้งภาคการผลิต การขายเเละการจัดการมาช่วยให้ผู้ประกอบการให้สามารถเเข่งขันได้ในโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่มีคู่เเข่งมากขึ้นทั้งในเเละต่างประเทศซึ่งมีเงินทุนมหาศาล เข้ามากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย วันนี้ในฐานะที่เป็นตัวเเทนของภาคเอกชนจึงมีความมุ่งมั่นที่จะเข้าไปช่วยเหลือชุมชนให้มีการนำนวัตกรรมต่างๆ มาใช้เเละต่อยอดธุรกิจของพวกเขาให้สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน”

 

 

โดยที่ผ่านมามีการริเริ่มเเละสานต่อโครงการที่เป็นรูปธรรมอย่างเช่น ความร่วมมือ MOU กับทางมหาวิทยาลัยเเละอาชีวะ ในการเข้าไปสนับสนุนการสร้างคอร์สเเละหลักสูตรพัฒนาบุคลากรที่ตอบโจทย์ธุรกิจโลกในปัจจุบัน รวมถึงความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ DEPA เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ ในพื้นที่กว่า 1.5 แสนราย ให้สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อช่วยลดต้นทุนเพิ่มผลกำไรกับโครงการ depa mini Transformation Voucher EEC

“คูปอง depa mini Transformation Voucher มีประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ SMEs อย่างมากทั้งภาคเกษตร ภาคธุรกิจบริการ ซึ่งจะได้นำดิจิทัลไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจตัวเองทั้งซอฟต์เเวร์เเละฮาร์ดเเวร์ เพื่อพัฒนาธุรกิจมากขึ้น เช่น ระบบควบคุมสต๊อก ระบบดูแลสินค้า หรือบริหารงานจุดขาย โดยคูปองนี้ให้ส่วนลดให้ผู้ประกอบการถึง 10,000 บาท เเละหอการค้าชลบุรีมีโควต้าสนับสนุน SMEs รายย่อยในพื้นที่กว่า 700 รายมูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท”

โดยประธานหอการค้าจังหวัดชลบุรีคนใหม่ ยังมองเห็นความเปลี่ยนเเปลงของธุรกิจในปัจจุบันว่า คนรุ่นใหม่เริ่มเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาชุมชนของตนเอง การย้ายเข้าไปทำงานในเมืองลดลงเเละมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจดั้งเดิมมากขึ้น พวกเขาเหล่านี้ถือเป็นกำลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนสิ่งใหม่ในท้องถิ่น ทั้งนี้มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจของจังหวัดชลบุรีในปีนี้ยังคงทรงตัว เเต่คาดว่าเมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองเเล้ว โอกาสทางธุรกิจเเละการเติบโตของทุกภาคส่วนก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย

“เราต้องการกระจายรายได้ให้ทั่วถึงทั้งจังหวัด ไม่กระจุกอยู่ที่บางเเสนหรือพัทยา ทุกอย่างต้องผสมผสาน ถ้าชุมชนพัฒนา สังคมเเละวัฒนธรรมในจังวัดก็จะขับเคลื่อนไปด้วย นี่คือสิ่งที่หอการค้าชลบุรีมุ่งมั่นเเละต้องการสร้างความเปลี่ยนเเปลง กลยุทธ์สำคัญคือเราจะไม่ทำหลายอย่างเเล้วไม่เกิดผล เเต่จะทำสิ่งที่สำคัญน้อยอย่างให้เห็นผลสำเร็จเเละมีประสิทธิภาพสูงสุด” ธีรินทร์กล่าว

สำหรับนโยบายใหม่ของหอการค้าจังหวัดชลบุรี เเบ่งเป็น 9 ฝ่ายสำคัญ โดยเริ่มจาก 1) ฝ่ายเเรงงาน ช่วยส่งเสริมการยกระดับเเรงงานเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการเเละ EEC พร้อมส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรกับมหาวิทยาลัย 2)ฝ่ายเกษตรกรรม ช่วยพัฒนาสินค้าเกษตรในพื้นที่ เช่น สัปปะรดเเละปลานิล ให้เกิดความสมดุลเเละมีรายได้ที่ยั่งยืน พยายามผลักดันการใช้นวัตกรรมเเละเทคโนโลยีในการจัดการภาคเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม

3)ฝ่ายขนส่ง นับเป็นฝ่ายสำคัญของจังหวัดเนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งจะมีการส่งเสริมการร่วมมือของภาครัฐเเละเอกชนเพื่อพัฒนาระบบขนส่งให้รวดเร็วเเละสะดวกสบาย รองรับการเติบโตของ EEC ต่อไป 4) ฝ่ายการค้าการลงทุนจะมีการกระตุ้นการลงทุนภายในชุมชนที่เป็นธุรกิจขนาดย่อมเเละขนาดกลาง ให้ความรู้เเละฝึกทักษะด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ 5) ฝ่ายอุตสาหกรรม รวมการพัฒนาการเกษตร ประมงเเละการแปรรูป โดยมุ่งเน้นการต่อยอดสินค้าด้วยนวัตกรรมดิจิทัล

6) ฝ่ายการท่องเที่ยว ยกระดับการท่องเที่ยวในชุมชนเพื่อให้เกิดเป็น 1 ตำบล 1 สถานีใน 27 ตำบลทั้งหมด ใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการจัดระบบท่องเที่ยว เช่นรวมการทำทัวร์ เส้นทางท่องเที่ยวเเละที่พักได้ในครั้งเดียว พร้อมอบรมบุคลากรให้มีความสามารถในการใช้ภาษาต่างประเทศ 7)ฝ่ายพาณิชย์ ยกระดับการค้าขายของตลาด SMEs ในจังหวัด เพื่อสร้างความเข็มเเข็งจากชุมชน ส่งเสริมการใช้ดิจิทัล เปิดตลาดใหม่ทั้งในเเละต่างประเทศ

8)ฝ่ายการศึกษา จะดำเนินการต่อยอด MOU ที่มีการร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยบูรพาเเละอาชีวะ สร้างหลักสูตรที่เป็นที่ต้องการของธุรกิจ รวมถึงการจัดอบรมในชุมชนเพื่อสร้างองค์ความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดให้เกิดการพัฒนาอย่างประสิทธิภาพ เเละ 9)ฝ่ายนวัตกรรมเเละดิจิทัลเทคโนโลยี ส่งเสริมความเข้าใจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการในเรื่อง IoT ERP BI เเละ AI เป็นต้น พร้อมผลักดันให้มีการใช้เทคโนโลยีมาจัดการระบบธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการในชุมชน

You may have missed