นักข่าวร้อง “บิ๊กแป๊ะ” ตร.เกียร์ว่าง เฉยดำเนินคดี ผญบ.-ผช.ผญบ.บุกรุก ข่มขู่
ผู้สื่อข่าวร้อง ผบ.ตร.ตำรวจในพื้นที่ สภ.พรานกระต่าย กำแพงเพชร เกียร์ว่าง ไม่ดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ข้อหาบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ แถมถูกข่มขู่คุกคาม พยายามทำร้ายร่างกาย
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายจิตรกร บัวปลี อายุ 47 ปี ผู้สื่อข่าวอิสระ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ผล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้าน และรวมถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พร้อมพวก ในพื้นที่ อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร โดยมีพฤติกรรมในการปกป้องผู้กระทำความผิดในพื้นที่ สภ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ซึ่งวันนี้ได้มี พ.ต.ท.นิติ อินทุลักษณ์ นักวิทยาศาสตร์ (สบ3) พฐก.ในฐานะเวรอำนวยการ เป็นผู้รับเรื่อง
โดยนายจิตรกร กล่าวว่า เหตุที่เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนถึง ผบ.ตร.ครั้ง เพราะเชื่อว่ากระบวนการทางกฎหมายของพนักงานสืบสวนสอบสวนในพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงเป็นที่พึ่งได้ ในการดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พร้อมพวก ซึ่งมีพฤติกรรมในข้อหาบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ ข้อหาเจตนาฉ้อโกง หมิ่นประมาท อานาจรร หมิ่นซึ่งหน้า และพยายามทำร้ายร่างกาย และการบุกรุกเข้ามาในเคหะสถานโดยไม่มีเหตุอันควร โดยมีคลิปเหตุการณ์ข่มขู่คุกคาม และพยายามทำร้ายร่างกาย ซึ่งได้นำเอกสารหลักฐานมาประกอบการร้องเรียน
“ที่มาของเรื่อง กับเหตุการณ์ตามภาพคลิปวีดีโอ นับเป็นความรุนแรงที่ตนเพิ่งได้พบเจอในชีวิตจากการกระทำของผู้นำท้องถิ่นหลังกลับมาจากการยื่นหนังสือร้องเรียนจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร กระทั่งมาถึงบ้านเกิดเหตุเวลาประมาณ 17.00 น วันที่ 25 ก.ค.62 ได้ถูกกลุ่มของผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ข่มขู่คุกคาม และพยายามทำร้ายร่างกาย โดยการบุกรุกเข้ามาในเคหะสถาน ซึ่งสาเหตุเริ่มต้นมาจากก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน มิ .ย. 2562 บุคคลดังกล่าวได้นำสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำเข้ามาในเขตที่ดินบ้านของตน เมื่อตนเห็นจึงขอร้องให้ยุติการก่อสร้าง และให้นำสิ่งปลูกสร้างออก เมื่อผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ไม่ยอมรื้อถอนนำสิ่งปลูกสร้างออก ตนจึงไปที่ สภ.พรานกระต่าย ในข้อหาบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งขณะนั้นมีสารวัตรเวรรับเรื่องบันทึกคำให้การ แต่ไม่มีการลงบันทึกประจำวันแต่อย่างใด แต่หลังจากผ่านไปหลายวัน ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทางคดี สิ่งปลูกสร้างก็ยังอยู่เหมือนเดิม ตนจึงได้ไปร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร
เมื่อกลับมาถึงบ้านพบกลุ่ม ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมตัวกันข่มขู่คุกคาม และพยายามทำร้ายร่างกาย และบุกรุกเข้ามาในเคหะสถานโดยไม่มีเหตุอันควร และยังมีพฤติกรรม ข่มขู่คุกคามมาอย่างต่อเนื่อง อยู่หลายครั้ง ตนจึงมีความเกรงกลัวกับอิทธิพลดังกล่าว และพบว่า ผู้ที่กระทำการดังกล่าวยังไม่ถูกดำเนินคดี และสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำเข้ามาก็ยังอยู่เหมือนเดิม ไม่มีความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการนำตัวผู้ที่บุกรุกมาดำเนินคดี เมื่อติดตามทวงถามคดีต่อพนักงานสอบสวน แต่กลับถูกเพิกเฉยและบ่ายเบี่ยงมาตลอด ตนจึงต้องเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมยังหน่วยงานส่วนกลาง ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในครั้งนี้” นายจิตรกร กล่าวในที่สุด