ส.อ.ท. จับมือสยามสปอร์ตฯ และ สสว. พร้อมพันธมิตรด้านกีฬา จัด”THAILAND SPORT EXPO 2019″ ครบวงจร 10 – 13 ต.ค. ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี  

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกับ สยามสปอร์ตฯ และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พร้อมหน่วยงานพันธมิตรด้านกีฬาและธุรกิจกีฬา จัดงาน THAILAND SPORT EXPO 2019 จุดเริ่มต้นความร่วมมือการส่งเสริม SPORT ECOSYSTEM ของประเทศไทย มุ่งเป้าผลักดันธุรกิจกีฬาให้เติบโต 200,000 ล้านบาท และส่งเสริมให้คนไทยเล่นกีฬา 30 ล้านคน

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จับมือ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมด้วยหน่วยงานพันธมิตรสำคัญ อาทิ การกีฬาแห่งประเทศไทย, สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB, กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), SCG, FBT, Super Sports, ICC, ทรู อารีน่า หัวหิน, ธนาคารออมสิน, เครื่องดื่มสปอนเซอร์ และซินเน็ก รวมถึงสมาคมกีฬาต่างๆ ร่วมจัดงานแสดงศักยภาพของวงการกีฬาและธุรกิจกีฬาของไทย “THAILAND SPORT EXPO 2019 : Empower Your Sport DNA” ในระหว่างวันที่ 10 – 13 ตุลาคม 2562 ณ ชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี หวังสร้างการรับรู้และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศต่อสินค้ากีฬาแบรนด์ไทยให้มากขึ้น พร้อมวางเป้าหมายส่งเสริมธุรกิจกีฬาของไทยให้เติบโตสำหรับตลาดในประเทศอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ยังมุ่งหวังการพัฒนา SPORT ECOSYSTEM ของประเทศไทยอย่างเป็นระบบเพื่อส่งเสริมให้คนไทยสุขภาพดีขึ้น เศรษฐกิจของประเทศเติบโตขึ้นและคนไทยมีน้ำใจนักกีฬามากขึ้นด้วย

นายปรีชา ส่งวัฒนา รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังเป็นประธานแถลงข่าวงานแสดงสินค้า “THAILAND SPORT EXPO 2019 : Empower Your Sport DNA” ว่ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนากีฬาและธุรกิจด้านกีฬาจากทั้งภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ เองมีนโยบายมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมด้านกีฬาและสุขภาพ โดยพยายามผลักดันการส่งเสริม SPORT ECOSYSTEM ของประเทศไทย เพื่อเป็นการยกระดับธุรกิจกีฬาตลอดทั้งซัพพลายเชน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ สุขภาพของคนไทยและสร้างสังคมให้เป็นสุขมากขึ้น สำหรับการจัดงานครั้งนี้ เน้นแสดงศักยภาพสินค้าและผู้ประกอบการของไทยที่มีบทบาทในระดับประเทศและระดับโลก ทั้งในรูปแบบของการส่งเสริมกิจกรรมกีฬา นวัตกรรมและอุตสาหกรรมกีฬาให้ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรม Business Matching ร่วมกับ TCEB, สสว., กสอ., ธนาคารออมสิน และ NIA รวมถึงเชื่อมโยงผู้ประกอบการกับคู่ค้า แหล่งเงินทุน ทุนนวัตกรรม เทคโนโลยีและบริการต่างๆ จากภาครัฐด้วย ผู้มาร่วมงานจะได้พบกับสินค้านวัตกรรมที่เป็นของคนไทยเอง และสินค้าไฮไลท์โดดเด่นแบรนด์ระดับสากลที่ทำการผลิตในโรงงานประเทศไทย ซึ่งจะได้เห็นถึงศักยภาพของโรงงานผู้ผลิตสินค้าด้านกีฬาของคนไทยอีกด้วย

รองประธาน ส.อ.ท. ยังกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามปัจจุบันมูลค่าของอุตสาหกรรมกีฬาสูงถึง 120,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทย แต่อย่างไรก็ตามภาคอุตสาหกรรมเราจำเป็นต้องพัฒนาสินค้าและบริการของกลุ่มสินค้ากีฬาให้มีนวัตกรรมเพิ่มมากขึ้น เพราะปัจจุบันคนเล่นกีฬาและออกกำลังกาย สนใจฟังก์ชั่นการใช้งานของสินค้าแบบใหม่ๆ การมีดีไซน์ที่ทันสมัยและสวยงามมากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องพัฒนาสินค้าและบริการของตนให้ตอบสนองผู้บริโภคให้ตรงกับความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์และชุดกีฬา ของกีฬาที่กำลังได้รับความนิยม อาทิ ฟุตบอล วิ่ง จักรยาน แบดมินตัน อุปกรณ์ฟิตเนส อุปกรณ์โยคะ ซึ่งเป็นเทรนด์การออกกำลังกายของสังคมในปัจจุบัน หากความร่วมมือในการขับเคลื่อน SPORT ECOSYSTEM ของประเทศไทยในครั้งนี้ เป็นไปตามแผนงานที่คณะทำงานวางเป้าหมายไว้จะทำให้สามารถเพิ่มจำนวนผู้เล่นกีฬาได้ถึง 30 ล้านคน และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของไทยได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาทต่อปี

“ผู้จัดงานทั้ง ส.อ.ท. สยามกีฬาและหน่วยงานพันธมิตร คาดหวังว่าการจัดงาน THAILAND SPORT EXPO 2019 ในครั้งนี้ ผู้ประกอบการทุกคนจะใช้โอกาสในการวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภคคนไทย ได้เห็นตัวอย่างการนำนวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าให้สินค้า เพื่อประสิทธิภาพในการวางแผนธุรกิจและการตลาดของตนเองต่อไปในอนาคต รวมถึงช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนและคนไทยหันมาเล่นกีฬามากขึ้นด้วย” นายปรีชากล่าว

ด้าน ดร. สรายุทธ มหวลีรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)

กล่าวว่า งาน THAILAND SPORT EXPO 2019 ในปีนี้ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10 – 13 ตุลาคม 2562 ณ ชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้คอนเซ็ปต์ EMPOWER YOUR SPORT DNA  :  ปลุกพลังกีฬาในตัวคุณ เพื่อปลุกพลังกีฬาที่อยู่ในตัวตนของทุกคน ปลุกกระแสให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพ ใส่ใจในการออกกำลังกาย โดยการจัดงานในปีนี้ เรามุ่งเน้นด้านการแสดงศักยภาพของนวัตกรรมต่างๆในธุรกิจกีฬา และเรื่องของการสร้างแรงจูงใจให้คนหันมาเล่นกีฬามากขึ้น โดยเน้น Theme งานใน 4 ด้าน คือ การส่งเสริมการเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ, ส่งเสริมการเล่นกีฬาเพื่ออาชีพ, ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา, ส่งเสริมนวัตกรรมและธุรกิจด้านกีฬา จากปีก่อนๆ เราอาจจะเน้นไปที่เรื่องธุรกิจกีฬาและการขายสินค้า แต่ปีนี้เราดำเนินกิจกรรมมากถึง 10 กิจกรรมในงาน อาทิ Talk show ของเหล่านักกีฬาที่เป็นแรงบันดาลใจแก่เยาวชน / แบรนด์ของธุรกิจที่ส่งเสริมด้านกีฬา / เรื่องของ Innovation & Technology Showcase เพื่อแสดงศักยภาพของสินค้านวัตกรรมทั้งที่เป็นของไทยหรือสินค้าต่างประเทศที่ผลิตในประเทศไทย / กิจกรรม Business Matching ของกลุ่มสินค้าและบริการด้านกีฬาที่สภาอุตสาหกรรมฯมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว / การนำเสนอกีฬา E-SPORTS ให้เยาวชนหรือผู้ปกครองเข้าใจมากขึ้น / การประกวด Model Physique ทั้งชายและหญิง จากสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากในทุกๆปี / การส่งเสริมเรื่อง SPORTS TOURISM เพื่อเชื่อมโยงธุรกิจกีฬาไปยังภูมิภาคและสร้างประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางของการเล่นกีฬา / การเป็นสื่อกลางสำหรับผู้ประกอบการด้านกีฬาทุกระดับได้มาแสดงศักยภาพ และนวัตกรรมใหม่ๆ นำเสนอสินค้าที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เป็นการนำเทรนด์ในอุตสาหกรรมกีฬาของประเทศ และต่อยอดในการสร้างชื่อเสียงให้ชาวต่างชาติได้รู้จักประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

ดร.สรายุทธ มหวลีรัตน์ ยังเผยอีกว่า ภายในงานยังคงมีสินค้าและอุปกรณ์กีฬาในราคาพิเศษสุด จำหน่ายเช่นเดิม จากผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย อาทิ FBT, Supersports, ICC ทั้งจากแบรนด์สินค้าไทยและแบรนด์ต่างประเทศ กว่า 500 แบรนด์ชั้นนำ มาลดราคาแบบล้างสต็อก 30-80%  ทั้งนี้สยามสปอร์ตฯ เองยังต้องการยกระดับงานแสดงสินค้าและบริการด้านกีฬาให้เป็นแบบ International ต่อไปในอนาคต และตั้งเป้าให้เป็นงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอีกด้วย”

นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า “สสว. เห็นถึงความสำคัญของธุรกิจกีฬาดังกล่าว ที่มีความสำคัญต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ Sport Economy จึงเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่ สสว. ให้ความสำคัญ และตั้งใจที่จะพัฒนาและส่งเสริมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้มีการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพตามแนวทางของการพัฒนาในรูปแบบคลัสเตอร์ โดยเน้นการวางรากฐานการทำธุรกิจให้เข้มแข็ง และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเพื่อให้เกิดความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ในปีที่ผ่านมา สสว.ได้พัฒนากิจกรรมเครือข่าย Sport Economy และเครือข่ายมวยไทย ภายใต้โครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ปี 2562 ได้พัฒนาผู้ประกอบการและ CDA จำนวนกว่า 900 ราย โดยการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มคลัสเตอร์ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นกว่า 180 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนของประเทศต่อไปได้” นายสุวรรณชัย กล่าว

You may have missed