“อานนท์”ล่องใต้พร้อมดันวิสาหกิจลงช่วยหมู่บ้านชุมชนสร้างงานสร้างอาชีพสร้างพลังขับเคลื่อนพัฒนาประเทศช่วยรัฐบาล”บิ๊กตู่” ตามนโยบาย”รวมไทยสร้างชาติ”
“อานนท์”ล่องใต้พร้อมดันวิสาหกิจลงช่วยหมู่บ้านชุมชนสร้างงานสร้างอาชีพสร้างพลังขับเคลื่อนพัฒนาประเทศช่วยรัฐบาล”บิ๊กตู่” ตามนโยบาย”รวมไทยสร้างชาติ”
วันนี้ (1 กรกฎาคม 2563) ณ ห้องประชุมเรือนไทยพรหมคีรีศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช นายสุธี พลวัฒน์ ผู้ประสานงานวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย”ภาคใต้ตอนบน”นำตัวแทนประธานจังหวัดประกอบด้วย จังหวัดกระบี่ จังหวัดชุมพร จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระนอง และ จังหวัดสุราษฎร์ธานี สวนทาง นายทวี ประหยัด ผู้ประสานงานวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย”ภาคใต้ตอนล่าง”นำตัวแทนประธานจังหวัดประกอบด้วย จังหวัดตรัง จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดพัทลุง จังหวัดยะลา จังหวัดสตูล และ จังหวัดสงขลา รวม 14 จังหวัดภาคใต้ ให้การต้อนรับ นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย
นายองอาจ วิเศษ ประธานเครือข่ายภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย นางธนภัทร พันธวาส ประธานเครือข่ายกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแห่งประเทศไทย นายเศรษฐภัทร์ นิตยสิทธิวรากุล ประธานเครือข่ายเมืองสมุนไพรนาคราช พร้อมคณะผู้บริหาร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และ ประชาชน ร่วมประชุมหารือการปรับเปลี่ยน “หมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทย” ขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จาก “ร.9 ถึง ร.10 สู่ผองไทยทั่วแหล่งหล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา” พร้อมแนะนำการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อเสนอของบประมาณแก้ไขปัญหาความยากจนเกษตรกร ต่อทางรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทาง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบประสานงานระหว่างภาคประชาชนกับทางรัฐบาล
นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย ได้กล่าวว่า วิสาหกิจชุมชนเกิดขึ้นจากการนำเอาแนวทางเศรษฐกิจชุมชนหรือแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ คำว่า “วิสาหกิจชุมชน” นั้นสามารถใช้คำว่า “ธุรกิจชุมชน” แทนได้ อันเนื่องมาจากว่าชุมชนไม่ใช่รัฐ ดังนั้นสถานประกอบการที่ชุมชนเป็นเจ้าของก็ต้องจัดว่าเป็นของภาคเอกชนเช่นเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าหากใช้คำว่าธุรกิจนั่นก็หมายถึงการแสวงหากำไรเป็นที่ตั้ง แต่สถานประกอบการที่ชุมชนเป็นเจ้าของนั้นกลับมีแนวคิดที่เน้นการพึ่งพาอาศัยกันมากกว่าการแสวงหากำไร ดังนั้นจึงควรใช้คำว่า “วิสาหกิจชุมชน” เช่นเดียวกับ “รัฐวิสาหกิจ” ที่หลายคนรู้จัก
โดยวิสาหกิจชุมชนนั้นจัดเป็นกลุ่มกิจกรรมของชุมชนที่ชุมชนคิดได้จากการเรียนรู้ ไม่ใช่กิจกรรมเดี่ยว ๆ ที่ทำเพื่อมุ่งสู่ตลาดใหญ่ และไม่ใช่กิจกรรมที่ซับซ้อนอะไร ล้วนแล้วแต่เป็นการทำกินทำใช้ทดแทนการซื้อจากตลาดได้ และเป็นการจัดการระบบการผลิตและบริโภคที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน ที่ชุมชนทำได้เองโดยไม่ยุ่งยากนัก การทำกินทำใช้ทดแทนการซื้อเป็นการลดรายจ่ายและยังช่วยให้ระบบเศรษฐกิจใหญ่เข้มแข็งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการจัดระบบเศรษฐกิจใหม่ให้เป็นฐานที่เป็นจริงในชุมชน เพราะถ้าชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ กระแสพระราชดำรัสของ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9″ได้ทรงเปรียบเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนเสาเข็มของตึกที่ทำให้ตึกมั่นคงแข็งแรงเศรษฐกิจของประเทศก็จะเข้มแข็งและอยู่ได้ ที่ผ่านมาระบบเศรษฐกิจในประเทศเปรียบเหมือนการสร้างตึกที่มีฐานแคบ ถ้าฐานไม่แข็งแรง ตึกก็พังลงมา ดังนั้น วิสาหกิจชุมชนจึงมีความสำคัญในการสร้างฐานมั่นคงให้กับประเทศได้ โดยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าให้เข้มแข็งและกระจายโอกาสการประกอบอาชีพให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศสามารถพึ่งตนเองได้มากขึ้น
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า วิสาหกิจชุมชน คือ การประกอบการโดยชุมชนที่มีสมาชิกในชุมชนเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตทั้งด้านการผลิต การค้า และการเงิน และต้องการใช้ปัจจัยการผลิตนี้ให้เกิดดอกผลทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม ด้านเศรษฐกิจ คือ การสร้างรายได้และอาชีพ ด้านสังคม คือ การยึดโยงร้อยรัดความเป็นครอบครัวและชุมชนให้ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ แบ่งทุกข์แบ่งสุขซึ่งกันและกัน โดยผ่านการประกอบกระบวนการของชุมชน ด้วยเหตุนี้เองเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรจึงได้นำเสนอความช่วยเหลือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทาง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่รับความเดือดร้อนและช่วงสภาวะวิกฤติ ไวรัส covid-19 ระบาด และทางรัฐบาลก็พร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ตามนโยบาย”รวมไทยสร้างชาติ”