นายกฯ นักประดิษฐ์ ‘ ชี้ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “Fast and Furious 9” มาถ่ายทำที่ไทยส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีจินตนาการ

สามารถนำแรงบันดาลใจในภาพยนตร์มาใช้ในการประดิษฐ์นวัตกรรม แนะควรจัดเวทีให้ทุกภาคส่วนแลกเปลี่ยนความเห็นและสร้างความเข้าใจก่อนการถ่ายทำ

นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึง
กรณีที่กองถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวู๊ดฟอร์มยักษ์ เรื่อง “Fast and Furious 9” เขามาถ่ายทำในประเทศไทยว่า ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย ในการที่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง
Fast and Furious ได้เลือกประเทศไทย เป็นโลเกชั่น ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งจากการที่ตนได้มีโอกาสเข้าพบกับ พันตำรวจโทหม่อมหลวง กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
พร้อมกับ นายปิยะ เปสตันยี จาก บ.เปสตัน ฟิล์ม จก. ผู้ประสานงานกองถ่ายทำภาพยนตร์ และ นายอาทูโร่ บาร์เควท (Mr.Arturo Barquet) ผู้แทนบริษัทยูนิเวอร์แซลนั้น ก็ได้มีการแลกเปลี่ยนพูดคุยถึงประเด็นต่างๆ ในการที่จะมาถ่ายทำในประเทศไทย โดยทางผู้ว่าฯ จ.กระบี่ เห็นถึงโอกาสที่ จะเข้ามาช่วยในส่วนของรายได้ที่จะสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ แก่คนในชุมชน ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัด จำนวนมากในระหว่างที่มีการถ่ายทำ รวมทั้ง เป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทางทะเลของไทย ที่มีความสวยงามไม่แพ้ชาติใดๆในโลกด้วย

“ผมเห็นว่า การที่กองถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์มาถ่ายทำที่ไทย ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการถ่ายทำในทุกๆฉากจะต้องมีการเซ็ตฉากกันหลายๆฉาก ซึ่งกระทบกับระบบนิเวศทางทะเลในพื้นที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น ผมจึงแนะนำว่า อยากให้มีการนำทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ทางจังหวัด ทางกองถ่ายทำภาพยนตร์ และพ่อแม่พี่น้องเจ้าของพื้นที่ จัดเวทีพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจก่อนการถ่ายทำ
เพราะชาวบ้านเองก็มีความหวงแหนและอยากรักษาทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ของเขา และเขาเองก็เข้าใจถึงเจตนาของทางกองถ่ายว่าต้องการจะเผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวของไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ดังนั้น การจัดเวทีเพื่อเป็นการสร้างจุดลงตัวระหว่างกันถือเป็นเรื่องที่ควรทำก่อนที่จะมีการถ่ายทำในลำดับถัดไป” นายภณวัชร์นันท์ กล่าว

นายภณวัชร์นันท์ กล่าวต่อว่า การที่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยครั้งนี้
ถือว่ามีความสำคัญต่อแนวคิดในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพราะในฉากภาพยนตร์ Fast & Furious นั้น มีหลายฉากที่แสดงถึงนวัตกรรมความคิดของมนุษย์ ในการที่จะเอาชนะเวลาและอุปสรรคในการเดินทาง รวมทั้ง การสร้างเครื่องยนต์กลไกต่างๆ เพื่อจะเอาชนะซึ่งกันและกันด้วย ดังนั้น จึงอยากให้เด็กและเยาวชนไทย
ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้

ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์ที่ส่งเสริมจินตนาการ และหยิบเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ไปปรับใช้ในการประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนต่อไปด้วย

You may have missed