“เอื้ออมรสุข” แบ่งปันน้ำใจสู้ภัยโควิด-19 เปิดครัวแจกอาหารทุกวัน จนกว่าจะพ้นวิกฤต


เมื่อวันที่ 26 เม.ย.63 ที่เอื้ออมรสุขอาพาร์ทเม้นท์ ถนนสุขุมวิท 62 พระโขนง กรุงเทพฯ พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พร้อมด้วย นายสมชาย เอื้ออมรสุข นายกสมาคมสงเคราะห์คลองเตย และนายกิตติ เอื้ออมรสุข ผู้จัดการเอื้ออมรสุข อาพาร์ทเม้นท์
ร่วมเปิดกิจกรรมจิตอาสาปันน้ำใจสู้ภัยโควิด-19 ด้วยการเปิดครัวจัดทำอาหารกล่องให้กับพี่น้องประชาชนที่กักตัวอยู่กับบ้าน ตกงาน และได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ที่อาศัยอยู่ในย่านเอื้ออมรสุขอาพาร์ทเม้น จำนวนกว่า 700 คน รวมทั้งประชาชนในชุมชนหลังวัดบุญรอด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พระโขนง อาสาสมัครสาธารณสุข ศูนย์ 34 และสำนักงานเขตพระโขนงร่วมอำนวยความสะดวก และจัดระเบียบในการรับแจกอาหาร อาทิ การตรวจวัดไขั การสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างและ การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวว่า การจัดกิจกรรมแป่งปันน้ำใจในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่ดีซึ่งภาคเอกชนอย่าง เอื้ออมรสุขอาพาร์ทเม้นท์ ได้จัดขึ้นช่วยเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเพื่อเป็นการสนองนโยบายภาครัฐและกรมตำรวจในด้านการจัดระเบียบ การป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าร่วมจัดระเบียบ การเว้นระยะ การคัดกรองประชาชนที่เข้ามารับอาหาร ซึ่งก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีระเบียบวินัย และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
จึงได้เข้าร่วมจัดระเบียบ การเว้นระยะ การคัดกรองประชาชนที่เข้ามารับอาหาร ซึ่งก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นระเบียบ

นายสมชาย เอื้ออมรสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 คนไทยทุกคนล้วนได้รับผลกระทบ ส่วนจะมากจะน้อยแล้วแต่สภาพแต่ละบุคคล ยางครอบครัวมีหัวหน้าครอบครัวคนเดียวที่มีรายได้เลี้ยงดูสมาชิก เมื่อต้องหยุดงาน หรือลดวันทำงาน สมาชิกทุกคนก็ย่อมได้รับผลกระทบ ซึ่งในยาววิกฤตเช่นนี้ เราได้จัดทำอาหารขึ้นมาก็เพื่อจะแบ่งเบาภาระซึ่งอาจจะไม่ครบทุกมื้อ แต่ก็ช่วยได้ส่วนหนึ่ง คนทีป่วยไม่สบายก็จะได้ไม่ต้องซื้ออาหาร เก็บเงินไว้ดูแลตัวเองไปพบแพทย์ ซึ่งเราเปิดครัวมา 10 วันแล้ว นอกจากลูกค้าที่พักอาศัย ก็มีประชาชนจากชุมชนใกล้เคียงที่ทราบข่าวก็แวะมารับข้าวทุกวัน ตั่งแต่ 7.00-14.00 น.โดยเราจะเปิดครัวทุกวันไปจนกล่าวสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งคาดว่าน่าจะยาวไปถึงกลางเดือนพฤษภาคม

ขณะที่เกิดกระแสการเร่งปลดล็อกดาวน์ เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามานั้น ตนมองว่าอย่าใจร้อน ควรเคลียร์ทุกอย่างให้ชัวร์เพื่อความมั่นใจ เพราะหากเกิดการแพร่ระบาดกลับมาอีกรอบจะทำให้ต่างชาติสูญเสียความมั่นใจในมาตรการณ์ป้องกันการแพร่ระบาดและการสาธารณสุขของไทย ซึ่งตอนนี้ดีอยู่แล้ว จึงอยากให้คนไทยใจเย็นๆ