เลี้ยงปลาทอง โควิด…บนเกาะลอดช่อง

ในความเป็นจริง ไม่ว่าประเทศไหน จะพูดว่า “ทั้งโลก” ก็ได้ ยิ่งไม่ป่วย-ไม่ตายได้มากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นเรื่องควรดีใจมากเท่านั้น
โดยเฉพาะสิงคโปร์ พี่น้องร่วมอาเซียน แถมชานเรือนติดกันพอตะโกนถึง เมื่อได้ข่าวกลับมาทรุดด้วยโควิดก็ห่วง ถึงแม้เราไม่ทรุด แต่เพื่อนทรุด แล้วเราจะสุขแบบโดดเดี่ยวอยู่ได้อย่างไร
จึงอยากถามไถ่ แต่ก็จนใจ ด้วยไปไม่ได้-ไปไม่ถึง
โชคดีอยู่หน่อย ยุคนี้มีไอทีเชื่อมต่อ พอได้ทราบข่าวจากคนที่เขาไปมา คุณ “วินเซนต์” เล่าให้ฟังไว้ในโซเชียลประมาณนี้
-วินเซนต์
สิงคโปร์กำลังระส่ำหนัก ทั้งโรคระบาด ทั้งสภาพเศรษฐกิจ
นับจากนี้ไป คือ บทพิสูจน์ว่าระบบสาธารณสุข ฐานเศรษฐกิจและสภาพสังคมทุนนิยม ที่ต้องพึ่งพาการค้า การขาย การลงทุนและการท่องเที่ยวของสิงคโปร์จะเอาโควิดอยู่อย่างที่โม้และเชื่อมั่นกันหรือไม่?
สิงคโปร์ประกาศล็อกดาวน์ช่วง ๗ เมษายน-๔ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ประมาณ ๑ เดือน เพื่อปิดเกมโควิด
ทว่ามันเหมือนเป็นเวรเป็นกรรมเล่นตลก พอประกาศไม่ทันไร สิงคโปร์ก็มีข่าวแรงงานต่างด้าวติดเชื้อ และเกิดการแพร่ระบาดหนัก ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งพรวดๆ
หากสิงคโปร์เอาไม่อยู่ สิงคโปร์อาจจะต้องเลื่อนการล็อกดาวน์ออกไป
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เกาะสิงคโปร์กำลังจะโดนไวรัสโควิดจมเกาะ เพราะใช้เงินอัดฉีดไปมากแล้ว
รัฐบาลสิงคโปร์ใช้เงินอัดฉีดไปมากมายมหาศาล ๓ ครั้ง ตลอด ๓-๔ เดือน กุมภา.-พฤษภา.
เงินอัดฉีดที่นำมาใช้บางส่วน ก็เป็น “เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ” ด้วย
จ่ายฟรีให้กับประชาชนทุกคนตั้งแต่อายุ ๒๑ ปีขึ้นไป ในขณะที่ภาคธุรกิจก็อัดฉีดเต็มที่
หากยังขืนจ่ายแบบนี้อีกครั้ง-สองครั้ง หรืออีกแค่เดือนสองเดือน สิงคโปร์ก็คงจะหมดตูด!!
สิงคโปร์เป็นเมืองทุนนิยม มนุษย์ตึก ชุมชนแออัด เป็นเกาะเล็กๆ ผู้คนอยู่รวมกันหนาแน่น
ปัญหาต่างๆ ถูกหมักหมมรอวันระเบิดมานาน โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่มีจำกัด แรงงานต่างด้าวต้องเบียดเสียดกันอยู่
ในยามวิกฤติ คนสิงคโปร์จึงหาอยู่-หาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ไม่มีสภาพสังคมพึ่งพาตนเอง รัฐต้องเลี้ยงดูในยามวิกฤติแบบเดือนต่อเดือน
มาตรการเยียวยาของภาครัฐจึงมีออกมาทุกเดือน ในลักษณะ “หว่านแหลกแจกทุกคน”
เหมือนเลี้ยงปลาทองในตู้ พออาหารหมดก็คงจะอดตายไปตามยถากรรม
ยิ่งพอมาเจอสภาพผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มมาแบบก้าวกระโดดแบบนี้ สิงคโปร์ก็เลยเริ่มจะมีอาการระส่ำระสาย คล้ายๆ เกาะใกล้แตกเข้าไปทุกที!!
ใครว่าสิงคโปร์ดี สุขสบาย รีบย้ายไปสิงคโปร์ได้เลย!!
วินเซนต์
๑๔ เมษายน ๒๕๖๓
ครับ…..
จากอีกซักท่านคงไม่เป็นไรนะ เรามี ๒ หู ฟังให้ครบจากหลายๆ ด้าน ดีกว่าฟังหูเดียว
จากอีกท่าน ผมก็ลอกตามเคย อ่านดูนะ
Pat Hemasuk
สิงคโปร์แซงไทยไปแล้ว ทั้งที่ประเทศมีพื้นที่เล็กกว่าครึ่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เสียอีก
ใครที่กรี๊ดชื่นชมสิงคโปร์ว่าจัดการโควิด-19 ได้ดีกว่าไทย แล้วด่าระบบสาธารณสุขของไทยว่าแย่
ถ้าสมมุติให้แลกประเทศอยู่ชั่วคราวตอนนี้สักสองเดือนกับคนสิงคโปร์สักคนจะยอมไปไหม
เวลานี้ มาเลย์ อินโดฯ ฟิลิปปินส์ แซงไทยไปหมดแล้ว ทำให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขของไทยเรารับมือกับคน ๖๕ ล้านคน ได้ถูกทาง ถูกวิธีกว่าที่อื่น
ความตายมาถึงประตูบ้านแล้ว แทนที่จะช่วยกันสู้กับโรคระบาด ยังทำตัวบ้าคลั่งการเมือง
บางคนด่าได้แม้กระทั่งหมอที่ทำงานหนักในเวลานี้
ก็เอาล่ะ……….
พอเห็นภาพและเข้าใจสภาพกันแล้ว โบราณบอก “รู้เขา-รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”
แล้ว “ประเทศไทย” ที่ไทยบางพวกด่าทุกวันนี่ละ มีดี-มีเด่นตรงไหน ชาวโลกเขาถึงอิจฉา?
ไม่รู้ใช่มั้ย ไม่เป็นไร ผมจะลอกมาบอก
Caddie Hari
ประเทศเรานี้ดียังไง?
ประเทศไทย
– เป็นประเทศที่คนสวมหน้ากากและป้องกันตัวเองเต็มรูปแบบเป็นประเทศแรกๆ
– เป็นประเทศที่ประชาชนสนับสนุนและบริจาคอุปกรณ์ รวมถึงดูแลบุคลากรทางการเเพทย์มากและดีที่สุดในโลก
– เป็นประเทศที่ตื่นตัวกับโรคระบาดใน social network มากเป็นอันดับต้นๆ
– เป็นประเทศที่บุคลากรทางการแพทย์คอยดูแลรักษาคนไข้แบบตั้งใจที่สุด แม้ในกรณีคนไข้ไม่ให้ความร่วมมือก็ยังตามล่าจนได้ตัวมารักษา
– เป็นประเทศที่มีการจัดเตรียมสถานที่กักบริเวณและอาหารบริการให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงอย่างหรูหราดีงามที่สุด
– เป็นประเทศที่ระดมสมองในการประดิษฐ์นวัตกรรมเพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการรักษาโรคได้มากและหลากหลายที่สุด
– เป็นประเทศที่ผู้คนมีน้ำใจให้กันและกันมากที่สุดในยามที่ทุกคนเผชิญความลำบาก
เช่นนี้แล้ว ยังไม่รักและภูมิใจในประเทศตนเองได้อย่างไร จงอย่ามัวแต่มองในสิ่งไม่ดีจนไม่เห็นสิ่งดีๆ ที่เรามีกันเลย
Cr.รักเมืองไทย ชูชาติไทย
—————-