ศิลปากร ลงนาม ก.ท่องเที่ยวฯ ต่อยอด ป.เอก

เมื่อวันที่ 10 ก.ค.63 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานสักขีพยาน พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ( MOU) ระหว่าง มหาวิทยาลัยศิลปากร และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดี มหาวิทยาลัยศิลปากร พร้อมด้วย นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมลงนาม และมี ศาสตราจารย์ ดร.คณิต เขียววิชัย รองอธิการบดีพระราชวังสนามจันทร์, อาจารย์ ดร.วิชิต อิ่มอารมย์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มาเรียม นิลพันธุ์ คณบดีคณะศึกษาศาสตร์, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พีรพัฒน์ ยางกลาง คณบดีคณะวิทยาการจัดการ, อาจารย์เอกชัย ภูมิระรื่น ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษฯ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อสร้างเครือข่ายทางวิชาการ การพัฒนาคุณภาพงานวิจัย งานพัฒนาบุคลากร การพัฒนาการศึกษาด้านนันทนาการ การท่องเที่ยวและกีฬาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า ทางกระทรวงฯ มีการพัฒนาและจัดกิจกรรมทั้งด้านการท่องเที่ยวและกีฬามาอย่างต่อเนื่อง เมื่อได้ ม.ศิลปากร มาเสริมทางด้านวิชาการและองค์ความรู้ ตนเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบุคลากรและบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการท่องเที่ยว ที่เรากำลังเตรียมดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้ามาใช้เม็ดเงินภายในประเทศเฉพาะจุด เพื่อช่วยดึงเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในช่วงขาลงให้ดีขึ้น พร้อมทั้งยังจะมีความร่วมมือด้านผลงานและบุคลากรทางด้านศิลปะอีกมากในอนาคต

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร เผยว่า ทางมหาวิทยาลัยศิลปากร ได้เปิดสาขาการจัดการนันทนาการ การท่องเที่ยวและกีฬา ขึ้นใหม่เป็นปีแรก และมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระทรวงฯ โดยตรง ดังนั้นเมื่อได้รับความร่วมมือจากทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาด้วยดีแบบนี้ เราจึงหวังว่าบุคลากรที่จะจบออกไปในแต่ละรุ่น จะไปช่วยสร้างผลงานหรือพัฒนาวงการทั้งด้านท่องเที่ยวและกีฬาเป็นอย่างดี ตลอดจนในอนาคตด้านความร่วมมือที่เราถนัดคือเรื่องการออกแบบบต่าง ๆ ทั้งโลโก้, สถานที่จัดงาน รวมถึงผลงานของนักศึกษา จะได้เผยแพร่ออกไปสู่สาธารณะในวงกว้างต่อไปในอนาคต

นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการพัฒนาความรู้ ความสามารถให้กับบุคลากรด้านการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว ยังจะช่วยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ได้อีกด้วย และนอกจากนี้ จะเป็นการช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นภายหลังเกิดวิกฤติสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา และจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพยากรการท่องเที่ยวทั้งที่เป็นทรัพยากรทางธรรมชาติ ทรัพยากรทางวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ ให้มากขึ้น ปลัดท่องเที่ยวฯ กล่าวทิ้งท้าย

โดยขอบเขตทางวิชาการที่ทั้งสองหน่วยงานตกลงร่วมมือกัน ได้แก่

1. การพัฒนาความรู้ทางวิชาการและวิชาชีพของบุคลากรทุกระดับ

2. ส่งเสริมให้มีการศึกษา การวิจัย และการบริการวิชาการ ตลอดจนพัฒนานวัตกรรมทางนันทนาการ การท่องเที่ยวและกีฬา ของบุคลากรร่วมกัน

3. การประชุมสัมมนาการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อมูล ความรู้ด้านงานวิชาการ การวิจัยนันทนาการ การท่องเที่ยวและกีฬา

4. ส่งเสริมกิจกรรมขององค์กร ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนและพัฒนาการฝึกประสบการณ์นักศึกษาทั้งในหลักสูตรและนอกหลักสูตร และ

5. ส่งเสริมให้มีการสร้างเครือข่ายในการให้ทั้งสองหน่วยงานร่วมพัฒนาบุคลากรทางการนันทนาการ ท่องเที่ยวและกีฬา

You may have missed