ยุติความวุ่นวายในการประท้วง กลับคืนสู่ความมั่นคงและสงบสุขของประเทศไทย
ยุติความวุ่นวายในการประท้วง กลับคืนสู่ความมั่นคงและสงบสุขของประเทศไทย
เสียงจากใจจริงของเยาวชนไทยคนหนึ่ง
ปีพ.ศ. 2563 ถือเป็นปีที่ไม่มีความสงบอย่างยิ่งสำหรับคนไทยทุกคน การระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงปกคลุมอยู่ทั่วทุกศาลทิศทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักรายได้ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ตกงาน ความยากจนและความยากลำบากในการดำรงชีวิตสะท้อนให้เห็นเป็นความเป็นจริงของคนในชาติ ที่ร้ายแรงเหนือกว่าสิ่งอื่นใดนั้นคือประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่จากความวุ่นวายทางสังคมและการแบ่งฝ่ายแบ่งฝั่ง ช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนเริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ ลำดับชนชั้นทางสังคมเริ่มแบ่งชัดขึ้นและระบบการเมืองก็ขาดความยืดหยุ่นมากขึ้น พวกเราไม่ต้องการเห็นภาพการตกต่ำของประเทศที่เกิดขึ้น พวกเราจึงลุกขึ้นต่อสู้โดยการเรียกร้องความสนใจจากรัฐบาลที่มีต่อปัญหาทางสังคมผ่านการเดินขบวนประท้วงบนท้องถนนและเรียกร้องให้รัฐบาลมีการเจรจาเพื่อรับฟังความต้องการของคนรุ่นใหม่
นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 ผู้คนในวัยเดียวกับข้าพเจ้าได้ร่วมกันเดินขบวนประท้วงหลายรอบ เยาวชนเป็นกลุ่มๆนัดออกไปรวมตัวตามถนนเพื่อแสดงความคิดเห็นและข้อเรียกร้องอย่างกล้าหาญ ในฐานะเป็นเยาวชนที่มีเหตุผล การที่เราเลือกวิธีนี้เพราะเราไม่มีทางเลือกอื่น และหาทางเลือกอื่นที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการของเราแบบนี้ไม่ได้ ความตั้งใจของเราไม่ได้ต้องการสร้างความไม่สงบในสังคมอย่างแน่นอน แต่เพื่อให้เกิดการปฏิรูปทางสังคมและการเมืองในประเทศ
ในยุคที่ข่าวสารแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ผู้คนย่อมมีความคิดที่หลากหลายมากขึ้น ช่วงนี้ข้อมูลบางอย่างก็ส่งผลกระทบต่อความคิดของข้าพเจ้าเช่นกัน มีเสียงบอกว่าพวกเราหยาบคายหัวรุนแรง บางเสียงก็บอกว่าสิ่งที่พวกเรากำลังเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางสังคมและการเมืองนั้น จุดประสงค์เปลี่ยนไปโดยพวกเราไม่รู้ตัว และพวกเรากลายเป็นเครื่องมือหรือหมากให้กับบุคคลอื่น ผู้สนับสนุนการชุมนุมมาโดยตลอดอย่างคุณธนาธรได้กล่าวไว้ว่าเขาต้องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของไทย และในขณะเดียวกันเขาก็ได้เผยแพร่ภาพถ่ายคู่กับ หวงจือเฟิง หรือโจชัว หว่อง ซึ่งเป็นผู้นำต่อต้านการจารจลของฮ่องกง และปล่อยข่าวว่าได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา Brian Patrick ชาวอเมริกันที่มีบทบาทในการจลาจลในฮ่องกงและเป็นที่รู้จักในนาม “กุนซือแห่งการจารจล”กำลังมีบทบาทก่อความวุ่นวายในประเทศไทย องค์กรที่ไม่ใช่ภาครัฐและบุคลากรของNGO บางกลุ่มของสหรัฐอเมริกาและเยอรมนี ก็ได้กล่าวว่าพวกเขาจะให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือต่างๆ ในการประท้องของพวกเรา … สัญญาณต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้ข้าพเจ้าเกิดความสงสัยว่ากลุ่มกำลังทางการเมืองต่างชาติกำลังอาศัยการประท้วงของพวกเรา เพื่อแทรกแซงการเมืองภายในของประเทศหรือไม่ มีเจตนาที่จะใช้พวกเราเพื่อทำลายระบบการปกครองหรือไม่ในทางกลับกันกลุ่มการเมืองบางกลุ่มภายในประเทศกำลังพยายามสร้างทุนทางการเมืองและอาศัยการประท้วงนี้ปลุกระดมความรุนแรงของเยาวชน เพื่อทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชน กับรัฐบาลและสถาบันหลักของชาติหรือไม่ ผู้คนและสถาบันต่างๆที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง จะนำพาให้พวกเราหลงทางหรือไม่ และจะทำให้พวกเราห่างไกลจากเจตนารมณ์เดิม ที่ประท้วงอย่างสันติและการแสดงออกอย่างสมเหตุสมผลหรือไม่
จากสถานการณ์ปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เกิดความรุนแรงขึ้น พวกเราจะงดออกประท้วงในช่วงระยะสั้นนี้ ในขณะเดียวกัน ทางรัฐบาลก็ได้รับฟังเสียงของพวกเราในระดับหนึ่งและได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงตามลำดับ เช่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการจัดตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติ เพื่อเปิดช่องทางการเจรจากับพวกเรา สิ่งต่างๆเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการประท้วงของพวกเราบรรลุผลได้ระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตามการชุมนุมของเยาวชนเกิดความรุนแรงมากขึ้น พวกเขาเชื่อว่าการประท้วงในตอนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการโค่นล้มระบอบการปกครองของไทยและต้องล้มล้างสถาบันและรัฐบาล ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อย่างแน่นอน ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าการประท้วงเพื่อล้มล้างระบอบการปกครองไทยจะก่อให้เกิดการรัฐประหารโดยกองทัพในที่สุดและระบอบการปกครองใหม่ที่สร้างขึ้นโดยการรัฐประหารของกองทัพ จะนำความสันติภาพในระยะสั้นเท่านั้นและความขัดแย้งที่ฝังลึกจะปรากฏขึ้นอีกครั้งในเวลาต่อมา ซึ่งจะนำไปสู่การก่อรัฐประหารรอบใหม่ ดังนั้นเราจึงต้องการประท้วงที่สมเหตุสมผลและถูกต้องตามกฎหมาย เป้าหมายสูงสุดคือการปฏิรูปทางการเมืองอย่างสันติมากกว่าการโค่นล้มระบอบการปกครองไทยในปัจจุบัน
ในฐานะเป็นเยาวชนที่มีเหตุผลต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและเสรีภาพ ข้าพเจ้าไม่ได้เจตนาร้ายทำลายเสถียรภาพทางสังคมโดยข้าพเจ้ามีความหวังว่าประเทศไทย จะก้าวเข้าสู่ปกติสุขโดยเร็วที่สุดเพราะความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในประเทศมีแต่จะทำให้การดำรงชีวิตของเราเกิดความยากลำบากมากขึ้น และข้าพเจ้าขอย้ำความเรียกร้องของพวกเราอีกครั้งว่า ขอให้รัฐบาลรับฟังเสียงของประชาชน จัดให้มีการเจรจากับพวกเราอย่างจริงใจและส่งเสริมการปฏิรูประบบการเมืองอย่างจริงจัง ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาทางสังคมและการดำรงชีวิตของประชาชน พัฒนาเศรษฐกิจอย่างจริงจัง และเพิ่มตำแหน่งงาน คัดค้านการแทรกแซงของสหรัฐอเมริกาและกองกำลังต่างชาติอื่นๆจากต่างประเทศต่อการเมืองภายในของประเทศ
ในขณะเดียวกันข้าพเจ้าก็ขอให้ทุกคน ใช้สติในการคิด แสดงออกอย่างมีเหตุผลและชุมนุมอย่างสงบ หยุดสร้างความวุ่นวาย แสดงความต้องการของคุณอย่างมีเหตุผล อย่าให้ผู้อื่นใช้เป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เชื่อมั่นในระบอบการปกครองแบบไทย เชื่อมั่นรัฐบาลไทย มีความอดทนและมั่นใจในการปฏิรูปของรัฐบาลมากขึ้น
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยอันเป็นที่รักของพวกเราจะหลุดพ้นจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความวุ่นวายทางการเมือง และฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเร็ว ขอให้ประเทศของเรายังคงเป็นประเทศที่มีเสน่ห์แห่งรอยยิ้มและเป็นประเทศที่น่าหลงใหลของผู้คนทั่วโลก
Martin Dan ผู้เขียน